จีนยืนยันพบ ‘ผู้เสียชีวิต’ รายแรกจากโรคปอดอักเสบปริศนา

เอเอฟพี - หน่วยงานสาธารณสุขของจีนยืนยันพบผู้เสียชีวิตรายแรกจากโรคปอดอักเสบปริศนาที่กำลังแพร่ระบาด ซึ่งเชื่อกันว่าเกิดจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในตระกูลเดียวกับเชื้อโรค SARS

คณะกรรมการสาธารณสุขประจำเทศบาลเมืองอู่ฮั่นระบุวันนี้ (11 ม.ค.) ว่า เวลานี้มีผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่แล้วทั้งสิ้น 41 ราย โดย 2 รายแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว, 7 รายอาการยังอยู่ในขั้นวิกฤต และล่าสุดเสียชีวิต 1 ราย

ก่อนหน้านี้ ทางการจีนระบุว่ามีผู้ป่วยโรคปอดเป็นจำนวนมากถึง 59 คน ก่อนจะปรับลดตัวเลขลงมาเหลือเพียง 41 คนที่ยืนยันแล้วว่าเกิดจากเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่

การระบาดของโรคปอดปริศนาทำให้ผู้คนพากันตื่นตระหนก และนำไปเชื่อมโยงกับโรคทางเดินหายใจอักเสบเฉียบพลันหรือ SARS ซึ่งคร่าชีวิตชาวจีนบนแผ่นดินใหญ่ไป 349 คน และอีก 299 คนในฮ่องกงเมื่อกว่า 10 ปีมาแล้ว

องค์การอนามัยโลก (WHO) และหน่วยงานสาธารณสุขของจีนยืนยันตรงกันว่าโรคปอดที่พบในเมืองอู่ฮั่นเกิดจากเชื้อไวรัสโคโรนา

เจ้าหน้าที่จีนยืนยันเมื่อวันที่ 31 ธ.ค. ว่าพบการระบาดของโรคปอดปริศนาในเมืองอู่ฮั่น ซึ่งเป็นเมืองทางตอนกลางของจีนที่มีประชากรกว่า 11 ล้านคน

“เราไม่พบผู้ป่วยรายใหม่ๆ ตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค. ไม่มีบุคลากรทางการแพทย์ได้รับเชื้อ และไม่พบหลักฐานที่ชัดเจนของการแพร่เชื้อจากคนสู่คน” คณะกรรมการสาธารณสุขเมืองอู่ฮั่นแถลง พร้อมเผยว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการขายอาหารทะเลที่ตลาดแห่งหนึ่ง ซึ่งถูกสั่งปิดไปแล้วเมื่อวันที่ 1 ม.ค.

ขณะเดียวกัน ฮ่องกงซึ่งเคยเผชิญการระบาดอย่างรุนแรงของโรค SARS เมื่อช่วงปี 2002-2003 ก็ได้เพิ่มมาตรการเฝ้าระวังอย่างเต็มที่ โดยมีการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อทั้งบนขบวนรถไฟและเครื่องบิน รวมถึงตรวจร่างกายผู้โดยสาร

รัฐบาลจีนปฏิเสธความเป็นไปได้ที่โรค SARS จะกลับมาระบาดซ้ำอีก

การระบาดของโรคปอดเกิดขึ้นในขณะที่ชาวจีนนับพันล้านคนเตรียมตัวเดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อใช้เวลาอยู่กับครอบครัวในช่วงวันหยุดเทศกาลตรุษจีนปลายเดือน ม.ค. นี้

ไต้หวันได้เพิ่มมาตรการตรวจคัดกรองผู้โดยสารตามสนามบินต่างๆ ขณะที่สถานทูตสหรัฐฯ ในจีนประกาศเตือนชาวอเมริกันให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสัตว์หรือผู้ที่มีอาการป่วย