ซาอุฯผวาตกเป็นเป้าแก้แค้น วอนสหรัฐฯ, อิหร่านลดสถานการณ์ความตึงเครียด

เอเอฟพี - รัฐมนตรีต่างประเทศซาอุดีอาระเบียในวันจันทร์ (6 ม.ค.) ออกมาร้องขอความสงบ ท่ามกลางสถานการณ์ที่ลุกลามบานปลายเป็น "อันตรายอย่างยิ่ง" ตามหลังเหตุนายพลระดับสูงของอิหร่านถูกโดรนของสหรัฐฯสังหารเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

เสียงวิงวอนของเจ้าชายไฟซาล บิน ฟาร์ฮาน มีขึ้นท่ามกลางคำเตือนของสหรัฐฯที่ระบุว่าซาอุดีอาระเบีย "อยู่ในความเสี่ยงขั้นสูง" ที่จะตกเป็นเป้าถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธและโดรน หลังเตหะรานประกาศแก้แค้นให้กับพลเอกกาเซ็ม โซไลมานี ผู้บัญชาการกองกำลังคุดส์ของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่าน ซึ่งถูกลอบสังหารในแบกแดดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

"แน่นอนว่านี่คือช่วงเวลาที่อันตรายอย่างยิ่ง" เจ้าชายไฟซาลตรัสกับพวกผู้สื่อข่าวในริยาด "เราหวังว่าทุกตัวละครจะใช้ทุกมาตรการที่จำเป็นสำหรับป้องกันการยั่วยุและสถานการณ์ที่ลุกลามบานปลายในอนาคต"

สื่อมวลชนแห่งรัฐซาอุดีอาระเบียรายงานว่าคำตรัสของเจ้าชายไฟซาล มีขึ้นหลังการพบปะกันระหว่างเหล่ารัฐมนตรีต่างประเทศของรัฐชายฝั่งอาหรับและแอฟริกัน ในนั้นรวมถึงอียิปต์, เยเมน และจิบูตี โดยมีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงในภูมิภาค

เหตุสังหารนายพลโซไลมานี ซึ่งถูกมองว่าเป็นบุคคลทรงอิทธิพลสุดอันดับ 2 ของอิหร่าน กลายเป็นจุดพลิกผันโหมกระพือสถานการณ์ลุกลามบานปลายรุนแรงที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นมา ในสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างวอชิงตันและอิหร่าน ก่อความหวาดหวั่นว่าความขัดแย้งครั้งใหญ่อาจปะทุขึ้นในตะวันออกกลางอีกรอบ

ซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งต่างเป็นพันธมิตรของสหรัฐฯ ล้วนเปราะบางต่อการโจมตีตอบโต้ของอิหร่าน

ก่อนหน้านี้ได้เกิดเหตุโจมตีเรือบรรทุกน้ำมันหลายต่อหลายลำในตะวันออกกลางเมื่อปีก่อน เหตุการณ์ซึ่งกล่าวโทษว่าเป็นฝีมือของอิหร่าน และแม้เตหะรานยืนกรานปฏิเสธ แต่มันก็โหมกระพือความตึงเครียดขึ้นมาสักระยะแล้ว

ขณะเดียวกันเหตุโจมตีโรงกลั่นน้ำมันซาอุดีอาระเบียในเดือนกันยายน ยังทำให้ริยาดและอาบูดาบี ต้องหันมาใช้แนวทางประนีประนอมมากขึ้น โดยมีเป้าหมายหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับเตหะราน

ระหว่างพูดคุยทางโทรศัพท์กับบาร์ฮัม ซาเลห์ ประธานาธิบดีอิรักเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา กษัตริย์ซัลมานแห่งซาอุดีอาระบีย เน้นย้ำถึงความจำเป็นที่ต้องมีมาตรการต่างๆสำหรับปลดชนวนความตึงเครียด

มกุฏราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ทรงบัญชาให้เจ้าชายคาลิด บิน ซัลมาน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เสด็จฯไปยังวอชิงตันและลอนดอน เพื่อเรียกร้องขอให้อดทนอดกลั้น โดยพระองค์มีกำหนดพบปะกับเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวและเจ้าหน้าที่จากกระทรวงกลาโหมอเมริกาด้วย

เสียงวิงวอนของบรรดาผู้นำซาอุดีอาระเบีย มีขึ้นหลังจากสถานทูตสหรัฐฯในริยาด เตือนพลเมืองว่าฐานทัพทหารและแหล่งที่ตั้งทางพลังงานในจังหวัดอีสเทิร์นของซาอุดีอาระเบีย และพื้นที่ต่างๆใกล้ชายแดนเยเมน มีความอ่อนแออย่างยิ่งต่อการโจมตีด้วยขีปนาวุธและโดรน