นิกเกอิ - นิกเกอิเอเชียนรีวิว สื่อมวลชนของญี่ปุ่นระบุบรรดาค่ายรถยนต์ต่างๆสัญชาติแดนปลาดิบอาจเดิมตามอย่าง "มาสด้า" ในการพิจารณาทบทวนย้ายฐานการผลิตออกจากประเทศไทย จากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอย่างมาก ซึ่งส่งผลกระทบต่อบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นโตโยต้า, ฮอนด้าและอีซูซุ
นิกเกอิเอเชียนรีวิว รายงานว่ามาสด้า มอเตอร์ จะย้ายฐานการประกอบรถยต์ CX-3 สำหรับป้อนตลาดออสเตรเลีย จากไทยกลับไปยังโรงงานแห่งหนึ่งในเมืองโฮฟุ จังหวัดยามากูชิ อย่างเร็วที่สุดคือในเดือนธันวาคม ขณะที่ CX-3 เป็นหนึ่งในรถยนต์รุ่นที่มียอดส่งออกจากไทยสูงลำดับต้นๆของมาสด้า
รายงานของนิกเกอิ ระบุว่าโรงงานของมาสด้าในไทย มีกำลังผลิตรายปีที่ 135,000 คัน ในนั้นเป็น CX-3 จำเป็น 25,000 คัน และในนั้น 14,000 คัน ส่งออกไปยังออสเตรเลีย
เงินบาทของไทยเป็นหนึ่งในสกุลเงินที่แข็งค่ามากที่สุดในหมู่ค่าเงินของตลาดเกิดใหม่ ส่วนใหญ่สืบเนื่องจากดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลของไทย โดยในปีนี้ ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นมากกว่า 8% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ออสเตรเลียและแข็งค่า 6% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ
การตัดสินใจของมาสด้า เป็นส่วนหนึ่งของปรากฏการณ์ในวงกว้างที่เหล่าบริษัทต่างๆต้องรีบปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์เพื่อปกป้องตนเองจากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ในนั้นรวมถึงกรณีที่ เจนเนอรัล มอเตอร์ส ปรับลดพนักงานกว่า 300 อัตราในไทยเมื่อช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา และกำลังผลิตของพวกเขาในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ ลดลง 15% เมื่อเทียบเป็นรายปี
จากคำสั่งซื้อที่ลดลง นิปปอนสตีล สตีล ต้องประกาศปิดโรงงานในไทยเป็นการชั่วคราวเมื่อช่วงปลายเดือนที่ผ่านมา โดยอ้างถึงความต้องการใช้วัตถุดิบจากลูกค้าลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา จากปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ ขณะที่พวกเขาใช้โรงงานในไทย ผลิตแผ่นเหล็กความแข็งแรงสูง ป้อนแก่ค่ายรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นทั้งหลาย ในนั้นรวมถึงมาสด้า
ไทยคือศูนย์กลางปฏิบัติการต่างๆของบรรดาค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น ซึ่งครอบงำตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปัจจุบัน โดยทั้งโตโยต้า มอเตอร์, ฮอนด้า มอเตอร์, นิสสัน มอเตอร์, มาสด้า, อีซูซู มอเตอร์ส ต่างมีโรงงานในไทย ซึ่งโดยรวมแล้วในปี 2018 ค่ายรถยนต์ทั้งหลายได้ผลิตรถยนต์รวมกัน 2.16 ล้านคันในไทย และราวครึ่งหนึ่งเป็นการผลิตเพื่อส่งออก
อย่างไรก็ตามด้วยบรรดานายธนาคารคาดหมายว่าเงินบาทอาจแข็งค่าขึ้นไปอีก จึงมีความกังวลมากขึ้นเรื่อยๆว่าเหล่าผู้ผลิตอื่นๆอาจเดินตามรอยมาสด้า ในการย้ายฐานการผลิตจากประเทศไทย
อัตราแลกเปลี่ยนทำให้กำไรจากการดำเนินงานของมาสด้า ระหว่างเดือนเมษายนถึงกันยายน หายไปราว 37,500 ล้านเยน(ราว 10,000 ล้านบาท) และประเด็นค่าเงินนี้ยังทำให้กำไรจากการดำเนินงานของโตโยต้าหายไปราว 90,000 ล้านเยน(เกือบ 25,000ล้านบาท) ในช่วงเวลาเดียวกัน ส่วนฮอนด้ากำไรหายไปประมาณ 50,000 ล้านเยน(เกือบ 14,000ล้านบาท) ขณะที่มิตซูบิชิ ซึ่งมีฐานการส่งออกขนาดใหญ่ในไทย ก็มีผลกำไรลดลง 22,200 ล้านเยน(ราว 6,100 ล้านบาท) ในช่วง 6 เดือนหลังสุด
"เราย้ายการผลิตรถยนต์ของเรา 80%ในไทยไปยังต่างแดน แต่จะ(จำเป็น)พยายามขายในท้องถิ่น" โคจิ อิเคยะ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินบอกกับนิกเกอิเอเชียนรีวิว
ด้านอีซูซุ ซึ่งผลิตรถกระบะในไทย และส่งออกรถเหล่านั้นไปยังส่วนอื่นๆของโลก ก็ได้รับความเสียหายจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราเช่นกัน "เราส่งออกรถยนต์ที่ผลิตในไทยไปยังประเทศอื่นๆราว 120 แห่งทั่วโลก ผลกำไรจากการทำธุรกิจลดลงอย่างมากเนื่องจากการแข็งค่าของดอลลาร์" มาซาโนริ คาตายามะ ประธานอิซูซูกล่าว