เอเอฟพี/มาร์เกตวอตช์ - ราคาน้ำมันในวันอังคาร (17 ธ.ค.) ปรับขึ้น 4 วันติด ยังได้แรงหนุนจากข้อตกลงการค้าเฟส 1 ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ปัจจัยนี้ฉุดราคาทองคำปิดในกรอบแคบๆ ขณะที่วอลล์สตรีทดีดตัวต่อเนื่อง จากข้อมูลเศรษฐกิจของอเมริกา
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 73 เซ็นต์ ปิดที่ 60.94 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ลอนดอนงวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 76 เซ็นต์ ปิดที่ 66.10 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
น้ำมันทั้งสองสัญญาแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 16 กันยายนในวันอังคาร (17 ธ.ค.) ถือเป็นการปิดบวก 4 วันติดต่อกัน และเป็นการขยับขึ้นต่อเนื่องนานที่สุดตั้งแต่เดือนตุลาคม
“ตลาดน้ำมันยังคงได้แรงหนุนอย่างแข็งแกร่ง ขณะที่บรรยากาศยังคงเป็นบวกอย่างกว้างขวางจากข้อตกลงการค้าเฟส 1 พื้นฐานน้ำมันยังคงมั่นคง ด้วยคลังสำรองโลกกำลังลดลงเรื่อยๆ” วาร์เรล แพตเตอร์สัน หัวหน้าฝ่ายยุทธศาสตร์สินค้าโภคภัณฑ์ของไอเอ็นจีระบุ
ส่วนราคาทองคำในวันอังคาร (17 ธ.ค.) ปิดในกรอบแคบๆ ยังอยู่ภายใต้อิทธิพลของข้อตกลงการค้าสหรัฐฯ และจีน โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 10 เซนต์ ปิดที่ 1,480.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันอังคาร (17 ธ.ค.) ขยับขึ้นต่อเนื่อง หลังข้อมูลภาคอสังหาริมทรัพย์และภาคการผลิตที่แข็งแกร่ง ช่วยเสริมความเชื่อมั่นของนักลงทุน เพิ่มเติมจากข้อตกลงการค้าระหว่างวอชิงตันกับปักกิ่ง
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 31.27 จุด (0.11 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 28,267.16 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 1.07 จุด (0.03 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,192.52 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 9.13 จุด (0.10 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 8,823.36 จุด
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านเพิ่มขึ้นผิดคาดในเดือนพฤศจิกายน และการอนุญาตก่อสร้างบ้านในเดือนนี้แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2007
นอกจากนี้แล้ว ข้อมูลจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ยังเผยให้เห็นด้วยว่าผลผลิตภาคการผลิตสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือนพฤศจิกายน ส่วนหนึ่งจากการหยุดผละงานประท้วงที่เจนเนอรัล มอเตอร์ส ซึ่งช่วยเพิ่มกำลังผลิตยานยนต์