(เก็บความจากเอเชียไทมส์ www.asiatimes.com)
Taiwan leader has missiles at office: lawmaker
By KG Chan
19/12/2019
สมาชิกสภานิติบัญญัติไต้หวันผู้หนึ่งกล่าวทางรายการทีวีของสถานีโทรทัศน์ทางการจีนว่า ประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน มีอาวุธอย่างเครื่องยิงจรวดต่อต้านรถถัง อยู่ใกล้ๆ สำนักงานของเธอในกรุงไทเป เผื่อเอาไว้รับมือกรณีที่จีนยกกำลังเข้ารุกราน
ผู้นำไต้หวันออกคำสั่งให้ติดตั้งพวกอาวุธจรวดขีปนาวุธเอาไว้ใกล้ๆ สำนักงานของเธอ เผื่อรับมือในกรณีที่ปักกิ่งเปิดการโจมตี สมาชิกสภานิติบัญญัติไต้หวันผู้หนึ่งบอกกล่าวเล่าเรื่องนี้ทางสถานีโทรทัศน์ของทางการจีน
ประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน ของไต้หวัน รู้สึกเสียขวัญมากจากการที่กองทัพปลดแอกประชาชนจีนประกาศจะทำการ “โจมตีแบบมุ่งเด็ดหัว” (decapitation strikes) จนกระทั่งเธอออกคำสั่งให้นำเอาพวกอาวุธจรวดขีปนาวุธมาเข้าประจำการใกล้ๆ ตัวเธอ โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนการซึ่งร่างกันขึ้นมาเมื่อเร็วๆ นี้ เพื่อเสริมสร้างทำให้สำนักงานและบ้านพักของเธอในกรุงไทเปอยู่ในสภาพ “ป้อมค่าย” สมาชิกสภาไต้หวันผู้นี้บอกกับสถานีโทรทัศน์ชั้นนำของจีนแผ่นดินใหญ่
สมาชิกสภานิติบัญญัติไต้หวันที่ออกมากล่าวอ้างเรื่องนี้ชื่อ ชิว อี้ (Chiu Yi) เขาปรากฏตัวเป็นประจำในรายการกระแสข่าวเกี่ยวกับไต้หวัน ทางสถานีโทรทัศน์ส่วนกลาง (ซีซีทีวี) ของทางการจีน
ชิว เป็นสมาชิกพรรค “นิวปาร์ตี้” (New Party) ซึ่งมีนโยบายสนับสนุนการรวมไต้หวันเข้ากับแผ่นดินใหญ่ เขาเปิดเผยคำกล่าวอ้างเรื่องนี้ของเขาในรายการข่าวช่องแคบไต้หวัน ซึ่งออกอากาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทางช่อง ซีซีทีวี-4 อันเป็นช่องทีวีระหว่างประเทศภาษาจีนกลาง ของสถานีโทรทัศน์จีนแห่งนี้
เขาระบุว่า ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา กองบัญชาการสารวัตรทหาร (Military Police Command) ของไต้หวัน ได้นำเอาเครื่องยิงจรวดต่อสู้รถถัง เคสเทรล (Kestrel anti-tank missiles) ซึ่งผลิตโดยเกาะแห่งนี้เอง พร้อมด้วยอาวุธอย่างอื่นๆ ออกมาติดตั้งประจำการเพื่อใช้คุ้มครองป้องกันบรรดาอาคารรัฐบาลที่มีความสำคัญสูง รวมทั้งทำเนียบรัฐบาลในกรุงไทเป เรื่องนี้อาจจะเป็นการสั่งการของตัวไช่เอง “สืบเนื่องจากความกลัวอย่างฝังจิตฝังใจของเธอ”
ในรายการข่าวที่ได้รับความนิยมจากผู้ชมชาวแผ่นดินใหญ่อย่างกว้างขวางนี้ ชิวยังกล่าวว่า เครื่องยิงจรวดเคสเทรล ซึ่งเป็นอาวุธแบบประทับบ่ายิงที่กองทัพไต้หวันนำมาเผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อกันอย่างเกรียวกราวนั้น มีการอวดโอ่อานุภาพอย่างห่างไกลเกินความเป็นจริงไปมาก เนื่องจากจริงๆ แล้วมันกระทั่งไม่สามารถที่จะยิงเจาะผ่านเกราะของรถถังรุ่น ไทป์ 98 และ ไทป์ 99 ของกองทัพปลดแอกประชาชนจีน จึงยังไม่ต้องพูดถึงการใช้อาวุธชนิดนี้มาสกัดขัดขวางรถถังเหล่านี้ไม่ให้เคลื่อนรุกคืบไปตามท้องถนนในกรุงไทเป หากมีการส่งพวกมันขึ้นบกเพื่อบุกเกาะไต้หวันกันจริงๆ
“ขณะที่รายงานข่าวป่าวร้องว่าจรวดพวกนี้จะช่วยป้องกันกลุ่มอาคารรัฐบาลและประชาชนนั้น เจตนารมณ์แท้จริงของการติดตั้งอาวุธเหล่านี้ก็เพียงเพื่อพิทักษ์ปกป้องประธานาธิบดีไช่และพวกผู้ติดตามของเธอเท่านั้น” ชิว บอก
สมาชิกสภาไต้หวันผู้นี้กล่าวอีกว่า มีการเรียกให้กองทัพจัดตั้งกองร้อยทหารตอบโต้เร็ว (Quick Reaction Company) 1 กองร้อย ซึ่งประกอบด้วยทหารชั้นนำ มาทำหน้าที่ตรวจการณ์และคุ้มครองรักษาทำเนียบประธานาธิบดี เพื่อให้มีความมั่นคงปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น ซึ่งควรที่จะมองได้ว่ามันเป็นการยอมรับอย่างอ้อมๆ ว่า จรวดอย่างเดียวยังไม่สามารถทำให้ไช่เกิดความสบายอกสบายใจ
เพื่อเพิ่มน้ำหนักความน่าเชื่อถือให้แก่การกล่าวอ้างของเขา ชิวย้ำว่าในฐานะที่เป็นสมาชิกคนหนึ่งของสภานิติบัญญัติหยวน (Legislative Yuan) ของไต้หวัน เขามีสิทธิเข้าถึงพวกเอกสารกลาโหมที่มีการจัดชั้นจำกัดผู้ที่สามารถจะดูได้ รวมทั้งเขายังมีสิทธิเข้าถึงแหล่งทรัพยากรต่างๆ ภายในกองทัพไต้หวัน
ชิวยังได้พูดถึงทรัพย์สินทางทหารชิ้นเอกของกองทัพเรือไต้หวัน ซึ่งได้แก่ เรือลำเลียงรถถังขึ้นบก (tank-landing ship) ชื่อ เกาสย์ง (Kao Hsiung) รวมทั้งระบบขีปนาวุธและระบบเรดาร์ของเรือลำนี้ ตลอดจนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการติดตั้งจรวดขีปนาวุธของฝ่ายทหารบริเวณภายในกรุงไทเปและรอบๆ เมืองหลวงเกาะไต้หวันแห่งนี้
ระหว่างปรากฏตัวในรายการเดียวกันนี้อีกครั้งหนึ่งในวันอาทิตย์ (15 ธ.ค.) ชิวบอกว่าขณะที่เรือเกาสย์ง ได้รับการติดตั้งระบบเรดาร์แบบสายอากาศแถวลำดับ (phased array radar system) และไซโลยิงขีปนาวุธแนวตั้ง (vertical launch silos) ทว่าสำหรับระบบการต่อเชื่อมข้อมูลและการควบคุมบนเรือรบลำนี้ ยังคง “ล้าสมัย” ทั้งหมด
จากการที่ ชิว ปล่อยความลับทางทหารรั่วไหลอยู่เป็นประจำ รวมทั้งเปิดเผย “ข้อมูลข่าวสารแบบวงใน” ทางซีซีทีวี เกี่ยวกับจุดอ่อนข้อบกพร่องทางสมรรถนะของกองทัพไต้หวัน ทางด้านกระทรวงกลาโหมของเกาะแห่งนี้ได้ออกมาแถลงเมื่อวันพุธ (18 ธ.ค.) ว่า ในฐานะที่เป็นสมาชิกสภา การให้ความเห็นเช่นนี้ของชิว ย่อมจะเท่ากับ “การทรยศชาติ”
คำแถลงของกระทรวงระบุด้วยว่า ชิวไม่ได้มีความรู้ทราบถึงข้อมูลข่าวสารปิดลับใดๆ เกี่ยวกับรายละเอียดการรักษาความมั่นคงปลอดภัยให้แก่ตัวไช่ หรือเกี่ยวกับทรัพย์สินทางทหารและบุคลากรทางทหารซึ่งนำออกประจำการเพื่อใช้ป้องกันไทเป
“สาธารณชนควรต้องตระหนักว่า สี จิ้นผิง และพรรคคอมมิวนิสต์จีนนั้น ไม่ได้เคยประกาศว่าจะตัดขาดไม่ใช้กำลังเล่นงานไต้หวันเลย” โฆษกกระทรวงกลาโหมผู้หนึ่งย้ำ
เวลาเดียวกัน ชิวก็ถูกสื่อสังคมของไต้หวันประทับตราว่าเป็น “คนทรยศชาติ” จากการที่เขาได้รับค่าตอบแทน จากการปรากฏตัวทางรายการต่างๆ ของซีซีทีวีเพื่อพูดเมาท์เรื่องแย่ๆ เกี่ยวกับไต้หวันมาเป็นปีๆ โดยที่มีผู้ออกความเห็นบางรายเรียกร้องให้สภานิติบัญญัติหยวนขับไล่เขาออกจากการเป็นสมาชิกสภา
ทว่า โฆษกของสภาผู้หนึ่งตอบว่า จะต้องเคารพยินยอมให้มีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นเอาไว้ ตราบเท่าที่สมาชิกสภาคนนั้นยังไม่ได้มีการกระทำใดๆ ที่อาจเป็นอันตรายตอความมั่นคงแห่งชาติของเกาะแห่งนี้