เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์--เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สี จิ้นผิงได้ปรับยศตำแหน่งเจ้าหน้าที่ทหารในกองทัพมากกว่า 170 นาย ภายใต้แผนการปฏิรูปกองทัพปลดแอกประชาชนจีน (พีแอลเอ)
ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นตามหลังการออกจดหมายเวียนเมื่อวันที่ 8 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งมีเป้าหมายสร้างความชัดเจนมากขึ้นในกระบวนการเลื่อนยศตำแหน่งเจ้าหน้าที่ตั้งแต่ยศพลตรีหรือยศสูงกว่าทั่วทุกหน่วยเหล่าสาขาของกองทัพ
การเลื่อนขั้นยศตำแหน่งของสี จิ้นผิงผู้ควบตำแหน่งคณะกรรมาธิการทหารกลางในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งมโหฬารที่สุดเท่าที่เคยมีมา
ปัญหาที่หมักหมมมานานของกองทัพมังกรคือ ความสัมพันธ์ระหว่างยศตำแหน่งและสถานภาพ อย่างเช่น ผู้บัญชาการกองกำลังทหาร (corps commander) มียศพันเอก (colonel) มีลำดับชั้นอาวุโสกว่าผู้นำกองพลซึ่งครองยศพลตรี (major general) ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่เป็นไปไม่ได้เลยในวงการทหารทั่วโลก
ระบบคู่ (dual system) อลเวงนี้ได้สร้างช่องโหว่และบ่มเพาะคอรัปชั่น ก่อนหน้านี้ผู้นำจีนพยายามปฏิรูปกองทัพแต่ก็ถูกต่อต้านจากกลุ่มผู้นำใหญ่ในพรรคคอมมิวนิสต์และหน่วยอื่นๆที่มีผลประโยชน์มหาศาลและต้องการที่จะรักษาสภาพเดิมไว้
กลุ่มผู้สังเกตการณ์ด้านทหารมองว่าการยกเครื่องปรับโครงสร้างกองทัพต้องใช้เวลานาน แหล่งข่าววงในผู้ไม่ประสงค์เผยนามบอกว่าที่ผ่านมาเป็นเรื่องง่ายมากสำหรับเจ้าหน้าที่กลุ่มหนึ่งที่จะได้เลื่อนขั้นยศตำแหน่งเพียงเพราะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเหล่าผู้นำระดับบิ๊ก สถานการณ์ดังกล่าวได้สร้างความไม่พอใจกับกลุ่มเจ้าหน้าที่ซึ่งมีบทบาทหน้าที่เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย
“กว่าที่ผู้บัญชาการในหน่วยสู้รบจะได้เลื่อนขั้นตำแหน่งต้องใช้เวลานานหลายปี เนื่องจากองทัพจีนไม่ได้เข้าร่วมการต่อสู้ศึกสงครามใหญ่มาหลายสิบปี” แหล่งข่าววงในกล่าว
นาย เจิ้ง จื้อผิง ผู้เชี่ยวชาญกฎหมายทหารประจำมหาวิทยาลัยซูโจว (Soochow University) ในมณฑลเจียงซู และนายทหารยศพันโทของกองทัพจีนผู้ปลดเกษียณแล้ว เผยถึงสภาพที่ไร้การตรวจสอบและควบคุมในกระบวนการเลื่อนยศตำแหน่งซึ่งมันได้นำไปสู่การละเมิดอย่างกว้างขวาง เจ้าหน้าที่บางกลุ่มซื้อตำแหน่งกัน ปัญหาที่ตามมาคือ เจ้าหน้าที่อาวุโสบางกลุ่มขาดประสบการณ์และที่สำคัญคือไม่ได้รับความเคารพนับถือจากเหล่านายทหาร
“กองทัพจีนจำเป็นต้องปฏิรูปกฎกติกาใหม่ เพราะไม่มีทางที่ทหารจะเชื่อฟังผู้บัญชาการที่ไม่เข้าใจสงครามสมัยใหม่” แหล่งข่าววงในกล่าว
Adam Ni บรรณาธิการร่วมของจดหมายข่าวออนไลน์ China Neican ชี้ว่ากฎระเบียบใหม่จะเปิดทางให้กับการควบรวมลำดับชั้นและบทบาทหน้าที่ ซึ่งกระบวนการนี้อาจต้องใช้เวลาหลายปี ในระยะยาวการจัดลำดับชั้นยศตำแหน่งและงานจะถูกรวมเป็นระบบเดียวกัน ซึ่งจะช่วยปรับปรุงระบบบัญชาการและควบคุมของกองทัพ แต่ก็ไม่แน่ว่ามันจะเป็นระบบการเลื่อนขั้นตำแหน่งที่โปร่งใสและยุติธรรม เนื่องจากยังมีปัจจัยอีกหลายอย่างอย่างเช่น การต่อสู้ระหว่างฝักฝ่ายภายในกองทัพ
นักสังเกตการณ์ด้านทหารอีกคนในมาเก๊า คือ Antony Wong Dong สี จิ้นผิงมีแผนสร้างประสิทธิภาพให้กับระบบปรับยศตำแหน่งมาหลายปีแต่ต้องเผชิญแรงต่อต้านจากผู้นำใหญ่บางกลุ่ม ดังนั้นในการโยกย้ายครั้งใหญ่นี้จึงพุ่งเป้าไปที่บรรดาเจ้าหน้าที่อาวุโส และหากทำสำเร็จ ก็จะช่วยปรับปรุงจรรยาบรรณของกลุ่มหน้าที่ที่มียศตำแหน่งระดับกลาง
ขณะนี้กองทัพพีแอลเอของจีนก้าวหน้ามากในการยกระดับระบบอาวุธยุทโธปกรณ์และฮาร์ดแวร์ทางทหาร กลุ่มนักวิเคราะห์ต่างย้ำกันว่าจีนต้องเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับลำดับชั้นในการบัญชาการและควบคุมเพื่อตอบสนองสถานการณ์และความท้าทายจากสงครามสมัยใหม่