xs
xsm
sm
md
lg

“ทอน” กล่อมคนอีสาน! ร่วมวิ่งไล่ลุง แลกแก้ปัญหาที่ดินทำกิน “นิพิฏฐ์” ย้อน “แม่ทอน” ก็รุกป่า-ส.ป.ก.300 ไร่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพจากเฟซบุ๊กนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ
“นิพิฏฐ์” ยกกรณี “ธนาธร” พูดเรื่องแก้ปัญหาที่ดินคนจนที่ยโสธร กล่อมคนจนช่วย “ม็อบ” แต่เอ๊ะยังไง “แม่ธนาธร” มีที่ดินถึง 300 ไร่ในเขตป่า และ ส.ป.ก.ที่เพิ่งคืนรัฐ ไม่อยากเห็นคนรวยพูดแล้วคนจนต้องหลั่งน้ำตาอีก

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (16 ธ.ค. 62) เฟซบุ๊ก ฃของนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ โพสต์หัวข้อ “เมื่อธนาธรพูดกับคนจนเรื่องปัญหาที่ดิน”

โดยระบุว่า “อ่านข่าวคุณธนาธร หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ไปปราศรัยที่ จ.ยโสธร เมื่อ 15 ธ.ค. 62 พูดเรื่องที่ดินใน 20 จังหวัดภาคอีสาน พูดถึงเรื่อง “คนจน” ถูกขับไล่ออกจากที่ดินทำกิน และเสนอแนวทางแก้ปัญหาที่ดินให้กับคนจน ตามข่าวมีคนตามไปฟังเยอะเหมือนกันนะ คุณธนาธรน่าจะพูดไปน้ำตาคลอไปสงสารคนจน

- ก่อนหน้านี้ มีข่าวแม่ของคุณธนาธรครอบครองที่ดินของรัฐประมาณ 300 ไร่ ที่จังหวัดราชบุรี ตอนนี้อธิบดีกรมป่าไม้บอกว่า แม่คุณธนาธรคืนที่ดินทั้ง 300 ไร่ให้แก่รัฐแล้ว

- ข่าวทั้ง 2 เรื่องนี้ ตรงข้ามกันโดยสิ้นเชิง ผมไม่อยากเห็นคนรวยพูดแล้วคนจนต้องหลั่งน้ำตาอีกต่อไป”

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมา ที่วัดป่าสระแก้ว ต.กุดเชียงหมี อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร พรรคอนาคตใหม่ ยโสธร จัดเวทีรับฟัง “ข้อเสนอเชิงนโยบายที่ดินทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม”

โดยบรรยากาศในช่วงเช้ามีประชาชนทยอยเข้าร่วมอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่จะมีการเปิดเวทีให้พูดถึงปัญหาของแต่ละพื้นที่ เช่น ปัญหาถูกขับไล่จากที่ดินทำกินที่อยู่มาเนิ่นนานจากนโยบายทวงคืนผืนป่า, ปัญหาผลกระทบจากการทำเหมืองแร่, ปัญหาผลกระทบจากการก่อสร้างโรงงานน้ำตาล และโรงไฟฟ้าชีวมวล เป็นต้น โดยเวทีดังกล่าวเป็นการรวมตัวของประชาชน 20 จังหวัดภาคอีสาน ประมาณกว่า 3,000 คน เข้าร่วม

ด้านพรรคอนาคตใหม่ มีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ในฐานะประธานกรรมาธิการการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายอภิชาติ ศิริสุนทร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ในฐานะรองประธาน รวมถึง ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ในพื้นที่ภาคอีสาน เดินทางมาร่วมฟังปัญหาและรับหนังสือร้องเรียนจากพี่น้องประชาชนด้วยกัน

ที่น่าสนใจ นายธนาธรกล่าวว่า ปัญหาเกี่ยวกับเรื่องที่ดินที่พ่อแม่พี่น้องประชาชนเผชิญอยู่จะไม่สามารถแก้ไขได้เลยถ้าเรายังอยู่ในรัฐบาลที่ไม่เป็นประชาธิปไตย กับนายกรัฐมนตรีที่่ไม่ศรัทธาการปกครองในระบอบประชาธิปไตย

ทั้งนี้ นโยบายทวงคืนผืนป่า การใช้มาตรการรุนแรงต่างๆ ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นดำเนินคดี ขับไล่ รื้อถอน ตัดโค่นพืชผลเกษตรของพี่น้องนั้นเกิดขึ้นในยุคสมัยที่เราไม่มีตัวแทนประชาชน เพราะถ้ามีประชาชนจะออกมาบอก ส.ส.เพื่อให้นำไปตั้งกระทู้ถาม หรือยื่นญัตติได้ เพราะ ส.ส.มาจากประชาชน พวกเขาย่อมต้องฟังเสียงประชาชน ด้วยการหาทางแก้ไขให้ปัญหาทุเลาเบาบางลง แต่รัฐบาลชุดนี้เขาไม่ได้มีฐานที่มาอย่างนั้น เพราะฐานค้ำยันของเขาคือ ส.ว. ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง มาจากการแจกกล้วย มาจากซื้องูเห่า เขาต้องเอาใจสิ่งเหล่านี้โดยที่ไม่เห็นหัวประชาชน

“ฐานอำนาจเดียวของนักการเมือง ความชอบธรรมเดียวของนักการเมืองที่มี คือ เสียงของประชาชน ดังนั้น ในเบื้องต้น กมธ.สามัญจะทำหน้าที่ศึกษาและทำข้อเสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเยียวยาผลกระทบ ส่วนระยะกลาง และระยะยาว เราจะจัดการทรัพยากรธรรมชาติได้ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องยุติระบบรัฐราชการรวมศูนย์ คืนอำนาจให้ประชาชน ให้มีสิทธิออกแบบ กำหนดอนาคตตัวเองได้ ซึ่งต้องทำจากท้องถิ่น ตรงไหนจะปลูกพืชอะไร ใช้น้ำอย่างไร ใช้ไฟอย่างไร ขนส่งมวลชนทำอย่างไร คนกรุงเทพฯ ไม่เกี่ยว นี่คือการยุติรัฐรวมศูนย์ นี่คือความฝันของเราในการแก้ปัญหาเรื่องที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติ”

นายธนาธรกล่าวด้วยว่า แต่อย่างไรก็ตาม เดินต่อไปข้างหน้าอีก เรามีข้อเสนอการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง 3 เรื่อง ซึ่งต้องทำให้ได้ นั่นคือ 1. พาประเทศไทยกลับเป็นประชาธิปไตย แก้รัฐธรรมนูญให้มีที่มาจากประชาชน 2. ปฏิรูปกองทัพ ให้กองทัพอยู่ภายใต้รัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ทำงานรับใช้ประชาชน และ 3. ยุติระบบรัฐราชการรวมศูนย์ คืนอำนาจให้กับท้องถิ่นจัดการตนเอง

“แต่จะเกิด 3 ข้อนี้ได้ อย่างแรกสุดที่ต้องทำ คือ ไล่รัฐบาลที่มาจากการสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหาร ซึ่งในเดือนหน้าจะมีกิจกรรมใหญ่นั่นคือ วิ่งไล่ลุง ให้พ่อแม่พี่น้องเตรียมตัวไว้ เพื่อที่จะออกมาวิ่งพร้อมกันทั่วประเทศ เพื่อบอกว่าพอกันทีกับอำนาจอยุติธรรม บอกว่าเราจะไม่ถอยไม่ทนอีกแล้ว เอาอำนาจของเรากลับคืนมา” นายธนาธรกล่าว


“วันนี้ผมขอให้กำลังใจกับทุกกลุ่มปัญหาที่ต่อสู้เพื่อความเท่าเทียมในสังคม และขอให้ท่านใช้พวกเรา อะไรที่ในฐานะที่พวกเราซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านพอจะช่วยให้บรรเทาเลาลงได้ให้บอกมา เราจะพยายามทำให้เต็มที่ ส่วนการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างต้องเดินกันไปยาวๆ เอาประชาธิปไตยกลับคืนมา นั่นคือสิ่งที่เราจะทำและขอให้พี่น้องประชาชนเดินไปด้วยกัน”

ดูเหมือน เป็นการไปปลุกระดม เพื่อให้ประชาชนช่วยชุมนุม “วิ่งไล่ลุง” ซึ่งหมายถึง “ลุงประยุทธ์” นั่นเอง

ขณะเดียวกัน ที่ “นิพิฏฐ์” พูดถึง “แม่ธนาธร” ก็มีพฤติกรรมบุกรุกพื้นที่ป่า และที่ดิน ส.ป.ก. โดยซื้อหามา
กว่า 300 ไร่นั้น

เมื่อวันที่ 7 พ.ย. 62 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงกรณีที่ดินของแม่นายธนาธร หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งซื้อไว้กว่า 300 ไร่ รุกที่ป่าสงวนฯ และพื้นที่ประกาศเขต ส.ป.ก.จังหวัดราชบุรี ว่า ทราบว่าแม่ของนายธนาธรจะมอบคืนที่ดินให้กับกรมป่าไม้ นำไปเป็นป่าชุมชนให้กับคนในพื้นที่ รวมทั้งที่เขตปฏิรูป โดย ส.ป.ก. พื้นที่จะคืนป่าไม้นำไปให้ชุมชนใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนร่วมกันต่อไป ตามนโยบายคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.)

ด้าน นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวถึงที่ดิน “แม่ธนาธร” ว่าพื้นที่ที่นางสมพร มารดาของนายธนาธร ครอบครอง ซึ่งผู้แทนนางสมพรระบุว่า มีเอกสารตามประมวลกฎหมายที่ดิน ผู้แทนนางสมพร แจ้งต่อที่ประชุมคณะทำงานฯ ว่า ยินดีที่จะบริจาคที่ดินให้แก่หน่วยงานของรัฐในการนำไปจัดตั้งเป็นป่าชุนชนเพื่อให้ชุมชนดูแลรักษาและใช้ประโยชน์ร่วมกัน

“สำหรับที่ดินของนางสมพรซึ่งระบุว่ามีเอกสารตามประมวลกฎหมายที่ดิน หรือ น.ส.2 นั้น การที่ผู้ครอบครองยินดีสละสิทธิ์แล้วจะจัดตั้งป่าชุมชน ต้องมีการตรวจสอบสิทธิ ความถูกต้องของเอกสาร และที่สำคัญคือ กำหนดขอบเขตที่ดินให้เจนก่อน จึงจะจัดตั้งป่าชุมชนได้ในโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐ (คทช.)

อย่างนี้ก็แสดงให้เห็นว่า “คนรวย” ซื้อที่ป่าสวนแห่งชาติ และที่ดิน ส.ป.ก. สามารถออกเอกสารสิทธิ น.ส.2 ได้ ความเหลื่อมล้ำ ความ “อยุติธรรม” ถ้าจะเรียกร้อง ก็ต้องเริ่มจากครอบครัวนายธนาธร ที่ทำกับคนไทยนั่นเอง และถึงแม้ว่าจะคืนที่ดินแล้ว แต่มันก็เป็นความผิดไปแล้ว

แล้วยังมามีหน้าใช้คำว่า “บริจาคให้รัฐ” อีก เพราะถือว่าเป็นการบุกรุก (อย่างที่ใช้กับชาวบ้าน คนยากจน) และอาจถูกดำเนินคดี ถ้าไม่รีบส่งคืน

โพสต์ของ “นิพิฏฐ์” จึงทำให้รู้ความสตอเบอแหลซ้ำแล้วซ้ำอีกของใครบางคน ที่พูดอะไรก็ได้ ให้ดูดี และใช้ประโยชน์หลอกล่อคนจนมาเป็นเครื่องมือขับไล่รัฐบาล มันไม่ใช่สุภาพบุรุษนักประชาธิปไตยอย่างที่อยากเป็นเลยแม้แต่น้อย


กำลังโหลดความคิดเห็น