รอยเตเอร์ – ศาลสูงของอินเดียในวันพุธ (18) ปัดตกคำร้องหยุดการบังคับใช้กฎหมายพลเมืองฉบับใหม่ที่ทำให้เกิดการประท้วงรุนแรงในประเทศ แต่ระบุว่า ศาลจะจัดการไต่สวนเกี่ยวกับกฎหมายฉบับดังกล่าวในเดือนหน้า
กฎหมายพลเมืองฉบับแก้ไข (Citizenship Amendment Act หรือซีเอเอ) ทำให้ผู้ที่ไม่ใช่ชาวมุสลิมจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างอัฟกานิสถาน บังกลาเทศ และปากีสถาน ที่ตั้งถิ่นฐานในอินเดียก่อนปี 2015 สามารถขอสถานะพลเมืองอินเดียได้ง่ายขึ้น
คนหลายหมื่นคนออกมาประท้วง และกล่าวว่า กฎหมายนี้เป็นการต่อต้านชาวมุสลิมและเป็นมาตรการล่าสุดของรัฐบาลชาตินิยมของนายกรัฐมนตรี นเรททรา โมดี ที่จะกลืนกินชุมชนมุสลิม
“เราต้องการคำสั่งระงับกฎหมายซีเอเอ”คาปิล ซีบาล ทนายความของกลุ่มผู้ยื่นคำร้องคัดค้านกฎหมายนี้ในศาล กล่าว และเสริมว่า มันขัดแย้งกับหลายส่วนในรัฐธรรมนูญอินเดียที่รับประกันความเท่าเทียมให้กับทุกคน
ประธานผู้พิพากษาศาลสูง เอส.เอ. บ๊อบเด ปฏิเสธคำร้องระงับการบังคับใช้กฎหมายซึ่งมีผลเมื่อเดือนที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ศาลจะจัดการรับฟังคำร้องคัดค้านความถูกต้องตามรัฐธรรมนูญของกฎหมายนี้ในวันที่ 22 มกราคม
รัฐบาลของโมดี กล่าวว่า กฎหมายนี้มีจุดประสงค์เพื่อแก้ปัญหาการกดขี่ชนกลุ่มน้อยต่างๆ เช่น ชาวฮินดู ชาวซิกข์ และชาวคริสต์ในประเทศที่ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมอย่างปากีสถาน อัฟกานิสถาน และบังกลาเทศ
พวกเขาเหล่านั้น ซึ่งจำนวนมากอยู่อย่างลำบากในอินเดียมานานหลายปีโดยไม่มีสิทธิ ในเวลานี้จะได้รับโอกาสรับสัญชาติอินเดียโดยอัตโนมัติ หากพวกเขามาจากสามประเทศนั้นก่อนปี 2015
อย่างไรก็ตาม ผู้ประท้วงกล่าวว่าการยกเว้นชาวมุสลิมแสดงให้เห็นอคติฝังลึกต่อชุมชนชาวมุสลิม ซึ่งคิดเป็น 14 เปอร์เซ็นต์ของประชากรอินเดีย ประชากรชาวมุสลิมกลุ่มใหญ่อันดับสามของโลก
กฎหมายใหม่นี้ออกมาหลังการยกเลิกสถานะพิเศษของแคว้นแคชเมียร์ที่ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม และคำสั่งศาลที่อนุญาตให้สามารถก่อสร้างวันฮินดูบนพื้นที่ของมัสยิดที่ถูกชาวฮินดูบุกทำลาย
ในวันพุธ (18) ตำรวจยิงปืนหลายนัดขึ้นฟ้าในเขตชาวมุสลิมของกรุงเดลีเพื่อขับไล่ผู้ชุมนุมหลายพันที่โยนหินและขวดแก้วกดดันให้ถอนกฎหมายนี้ออก