ส่อลากยาว! ทรัมป์ระบุข้อตกลงการค้ากับจีนอาจต้องรอจนถึงหลังเลือกตั้ง ปธน.

รอยเตอร์ - ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ ระบุในวันอังคาร(3ธ.ค.) ว่าข้อตกลงการค้ากับจีนอาจต้องรอจนถึงหลังเลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกาในเดือนพฤศจิกายน 2020 กัดเซาะความหวังแห่งการหาทางออกอย่างรวดเร็วจากข้อพิพาทที่ฉุดรั้งเศรษฐกิจโลกมานานนับปี

"ผมไม่มีเส้นตาย ไม่มี" เขาบอกกับพวกผู้สื่อข่าวในลอนดอน เมืองที่เขามีกำหนดเข้าร่วมประชุมเหล่าผู้นำนาโต้ "ในบางหนทาง ผมชอบแนวคิดที่จะรอไปจนถึงหลังเลือกตั้งในข้อตกลงการค้ากับจีน แต่พวกเขาต้องการข้อตกลงในตอนนี้ เราจะรอดูว่าข้อตกลงจะเป็นไปในทิศทางที่ถูกต้องหรือไม่ มันต้องเป็นไปในทิศทางที่ถูกต้อง"

คำพูดดังกล่าวมีขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง หลังจากเมื่อวันจันทร์(2ธ.ค.) เขาขู่จะรีดภาษีการค้าบราซิลและอาร์เจนตินา โดยกล่าวหาทั้งสองชาติทำร้ายเกษตรกรอเมริกันด้วยการปั่นค่าเงิน "ลดค่าเงินตัวเอง"

จากนั้นสหรัฐฯได้ขู่จะเก็บภาษีศุลกากรในอัตรา 100% จากสินค้านำเข้าฝรั่งเศสมูลค่า 2,400 ล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงสินค้าอุปโภคบริโภคอย่างแชมเปญ, กระเป๋าถือ, ชีส และผลิตภัณฑ์อื่นๆ เพื่อตอบโต้การเรียกเก็บภาษีบริการดิจิทัลของฝรั่งเศส ที่ทางวอชิงตันระบุว่ามันทำร้ายบรรดาบริษัทเทคโนโลยีสหรัฐฯ

พวกนักลงทุนต่างหวังว่าสหรัฐฯและจีนจะสามารถปลดชนวนความตึงเครียดทางการค้า ที่ยืดเยื้อมาตั้งแต่ปี 2017 หรือปีแรกที่ทรัมป์ขึ้นมาดำรงตำแหน่งปประธานาธิบดี ข้อพิพาทที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองชาติเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่ที่สุดอันดับ 1 และ 2 ของโลกตกอยู่ในภาวะมึนตึงมานับตั้งแต่นั้น

ก่อนหน้านี้พวกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯบอกว่าข้อตกลงอาจเกิดขึ้นในปีนี้ แต่ทั้งหมดทั้งมวลขึ้นอยู่กับจีน

โจนาธาน เบลล์ หัวหน้าฝ่ายการลงทุนของสตานโฮป แคปิตอล ให้ความเห็นถึงเรื่องนี้ว่า "แต่ละครั้งที่ก้าวไปข้างหน้า 1 ก้าว ถอยหลัง 1 ก้าว แนวโน้มที่จะพานพบอุปสรรคในการค้าระหว่างประเทศก็ยิ่งจะเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ" เขากล่าว "ตั้งแต่ต้นปีจนถึงบัดนี้ ตลาดมีมุมมองทางบวกในแนวโน้มผลลัพธ์แห่งความสำเร็จของการเจรจาทางการค้า แต่เรากังวลว่าในปีหน้า ตลาดอาจหันหลังกลับไปมองด้วยความหวาดวิตกยิ่งขึ้น"

วอชิงตันและปักกิ่งยังไม่ได้ลงนามในข้อตกลงการค้า "เฟส1" ที่แถลงออกมาเมื่อเดือนตุลาคม ข้อตกลงที่ก่อความหวังต่อการปลดชนวนความตึงเครียดระหว่างสองชาติ

ทรัมป์และสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน มีแผนพบปะกันและลงนามในข้อตกลงการค้าเบื้องต้น ที่เวทีประชุมซัมมิตเอเปกในชิลี เมื่อช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน แต่การประชุมถูกยกเลิกไป สืบเนื่องจากการประท้วงรุนแรงต่อต้านรัฐบาลในซันติอาโก

ก่อนหน้านี้ทรัมป์เคยบอกเมื่อเดือนกันยายน ว่าเขาไม่ต้องการทำข้อตกลงกับจีนก่อนศึกเลือกตั้งปี 2020 และในวันอังคาร(3ธ.ค.) เขาหาทางโยนแรงกดดันใส่ปักกิ่งอีกรอบ

"ข้อตกลงการค้ากับจีนขึ้นอยู่กับ 1 อย่าง นั่นคือผมต้องการทำมันหรือไม่ เพราะตอนนี้เรากำลังทำได้ดีกับจีนเป็นอย่างมาก และเราสามารถทำได้ดียิ่งขึ้นไปอีก ด้วยการสะบัดปากกาเพียงครั้งเดียว และจีนจะต้องชดใช้มัน จนถึงตอนนี้จีนกำลังเผชิญกับปีที่แล้วร้ายที่สุดในรอบ 57 ปี ดังนั้นเราจะจับตาดูกันต่อไป"

จีนรายงานว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศอยู่ในอัตราชะลอตัวเลวร้ายที่สุดในรอบ 27 ปีเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เนื่องจากความตึงเครียดทางการค้ากับสหรัฐฯ ส่งผลกระทบต่อภาคการผลิตของพวกเขา

เมื่อวันจันทร์(2ธ.ค.) ก่อนออกเดินทางไปยังลอนดอน ทรัมป์ยอมว่ากฎหมายของสหรัฐฯที่สนับสนุนพวกผู้ประท้วงในฮ่องกง ทำให้การเจรจาทางการค้ากับจีนยากลำบากขึ้น แต่ก็เชื่อว่าปักกิ่งยังคงต้องการทำข้อตกลงกับอเมริกา