ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในเช้าวันนี้ ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดร่วงลงเมื่อคืน หลังจากประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเรียกเก็บภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมนำเข้าจากบราซิลและอาร์เจนตินา โดยอ้างว่าทั้งสองประเทศได้ลดค่าเงินลงอย่างมาก ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อเกษตรกรของสหรัฐฯ
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 23,231.14 จุด ลดลง 298.36 จุด, -1.27% ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,869.88 จุด ลดลง 5.93 จุด, -0.21% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 26,315.97 จุด ลดลง 128.75 จุด, -0.49% ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 11,473.32 จุด ลดลง 29.51 จุด, -0.26% ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,075.02 จุด ลดลง 16.90 จุด, -0.81% ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,174.99 จุด ลดลง 12.98 จุด, -0.41% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,568.85 จุด ลดลง 1.70 จุด, -0.11%
ปธน.ทรัมป์ทวีตข้อความเมื่อวานนี้ว่า เขาจะประกาศเรียกเก็บภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมนำเข้าจากบราซิลและอาร์เจนตินา โดยระบุว่าบราซิลและอาร์เจนตินาได้ลดค่าเงินลงอย่างมาก ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อเกษตรกรของสหรัฐฯ ดังนั้น สหรัฐฯ จะเรียกเก็บภาษีเหล็กกล้าและอะลูมิเนียมนำเข้าจากบราซิลและอาร์เจนตินา โดยมีผลบังคับใช้ในทันที
นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐฯ หลังผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐฯ (ISM) ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐฯ ปรับตัวลงสู่ระดับ 48.1 ในเดือน พ.ย. จากระดับ 48.3 ในเดือน ต.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 49.4 โดยดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐฯ อยู่ในภาวะหดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 ทั้งนี้ ภาคธุรกิจของสหรัฐฯ มีความวิตกกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ส่งผลให้คำสั่งซื้อเพื่อการส่งออกหดตัวลงตั้งแต่เดือน ก.ค. โดยการบริโภค คำสั่งซื้อใหม่ สต๊อกสินค้าคงคลังเพื่อการส่งออกและนำเข้าหดตัวลงเช่นกัน ขณะที่ภาคธุรกิจมีความเชื่อมั่นลดลงด้วย