xs
xsm
sm
md
lg

ตลาดหุ้นเอเชียผันผวนเช้านี้ นักลงทุนวิตก “ทรัมป์” ทำสงครามการค้า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากที่ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นวันที่ 4 เมื่อวันศุกร์ เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีความวิตกเกี่ยวกับการทำสงครามการค้า หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศว่า สหรัฐฯ จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็ก และอลูมิเนียม

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เปิดวันนี้ที่ 21,047.81 จุด ลดลง 133.83 จุด, -0.63% ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เปิดวันนี้ที่ 3,255.87 จุด เพิ่มขึ้น 1.34 จุด, +0.04% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เปิดวันนี้ที่ 30,524.26 จุด ลดลง 59.19 จุด, -0.19% ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เปิดวันนี้ที่ 10,727.45 จุด เพิ่มขึ้น 29.28 จุด, +0.27% ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เปิดวันนี้ที่ 2,405.92 จุด เพิ่มขึ้น 3.76 จุด, +0.16% ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เปิดวันนี้ที่ 3,490.06 จุด เพิ่มขึ้น 10.86 จุด, +0.31% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เปิดวันนี้ที่ 1,853.75 จุด ลดลง 2.32 จุด, -0.12% ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เปิดวันนี้ที่ 8,434.67 จุด ลดลง 23.90 จุด, -0.28%

นักลงทุนยังคงมีความวิตกหลัง ปธน. ทรัมป์ ทวีตข้อความว่า การทำสงครามการค้าเป็นเรื่องที่ดีสำหรับสหรัฐฯ และเป็นเรื่องง่ายที่จะชนะ

“เมื่อประเทศหนึ่ง (สหรัฐฯ) ต้องสูญเสียเงินหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในการทำการค้ากับแทบทุกประเทศ การทำสงครามการค้าก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี และชนะได้ง่าย ยกตัวอย่างเช่น เมื่อเราต้องสูญเสียเงิน 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ กับบางประเทศ เราก็อย่าได้ทำการค้าต่อไปอีก เราก็จะชนะอย่างยิ่งใหญ่ นี่เป็นเรื่องง่าย ๆ” ข้อความในทวิตเตอร์ ระบุ

ปธน. ทรัมป์ ทวีตข้อความดังกล่าว หลังจากที่ก่อนหน้านั้น เขาได้ประกาศว่า สหรัฐฯ จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กในอัตรา 25% และอลูมิเนียม 10% ในสัปดาห์นี้ โดยมาตรการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะปกป้องภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ

อย่างไรก็ตาม ปธน. ทรัมป์ ไม่ได้เปิดเผยรายชื่อประเทศที่จะถูกเรียกเก็บภาษีดังกล่าว และระยะเวลาที่สหรัฐฯ จะดำเนินการเก็บภาษี

ทางด้านนักวิเคราะห์เตือนว่า การเรียกเก็บภาษีนำเข้าแทนที่จะช่วยปกป้องการจ้างงานในสหรัฐฯ จะกลับเป็นปัจจัยทำลายการจ้างงานในประเทศ เนื่องจากการเก็บภาษีจะทำให้ราคาสินค้าเพิ่มขึ้น และจะส่งผลกระทบต่อผู้ใช้เหล็ก และอลูมิเนียม ซึ่งก็คือ อุตสาหกรรมรถยนต์และน้ำมันของสหรัฐฯ


กำลังโหลดความคิดเห็น