รอยเตอร์ - ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวานนี้ (2 มี.ค.) ว่า สงครามการค้าเป็นเรื่องที่ดีและเอาชนะได้ไม่ยาก หลังกระแสข่าวการขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมฉุดดัชนีหุ้นดาวโจนส์ร่วงหนัก ขณะที่หุ้นส่วนการค้าของอเมริกาเริ่มขู่ใช้มาตรการแก้แค้น
ทรัมป์ ได้ส่ง วิลเบอร์ รอสส์ และ ปีเตอร์ นาวาร์โร สองที่ปรึกษาคนสนิทซึ่งเห็นด้วยกับแผนขึ้นภาษี ออกไปชี้แจงผ่านสื่อโทรทัศน์ ขณะที่ทำเนียบขาวเตรียมรับผลกระทบจากความเป็นไปได้ที่ แกรี โคห์น ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของ ทรัมป์ ซึ่งมีจุดยืนสนับสนุนการค้าเสรี อาจจะตัดสินใจ "ลาออก” เพราะเรื่องนี้
โคห์น อยู่ในกลุ่มเจ้าหน้าที่ซึ่งพยายามฉุดรั้ง ทรัมป์ ไม่ให้ใช้มาตรการรีดภาษีนำเข้าเหล็ก 25% และอะลูมิเนียม 10% ซึ่งสร้างความแตกตื่นหลังถูกประกาศออกไปเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (1)
หลายฝ่ายคาดเดาว่า โคห์น อาจถอนตัวจากรัฐบาลทรัมป์หลังจากที่ประธานาธิบดีไม่ฟังคำเตือน แต่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของทำเนียบขาวยืนยันว่า ยังไม่มีสัญญาณเช่นนั้นออกมา
“เมื่อวานตอนบ่าย แกรี ก็มาที่นี่ ดิฉันคุยกับเขาที่ออฟฟิศหลายครั้ง และไม่มีเหตุผลที่จะคิดไปในทางอื่น” ซาราห์ แซนเดอร์ส โฆษกทำเนียบขาว ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน
ความเห็นต่างในหมู่เจ้าหน้าที่รัฐบาลเกี่ยวกับแผนขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมยิ่งเพิ่มความปั่นป่วนให้แก่ทำเนียบขาว ซึ่งเผชิญการลาออกของเจ้าหน้าที่ถึง 2 คนในไม่กี่สัปดาห์ ได้แก่ ร็อบ พอร์เตอร์ เลขานุการเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวซึ่งลาออกไปเมื่อวันที่ 7 ก.พ. และล่าสุดคือ โฮป ฮิกส์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสาร ซึ่งยื่นใบลาออกเมื่อวันพุธ (28 ก.พ.)
เจ้าหน้าที่อาวุโสคนหนึ่งเผยว่า โคห์น ซึ่งรั้งตำแหน่งผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติ รวมถึง สตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ และเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ได้เตือน ทรัมป์ ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาว่า การรีดภาษีนำเข้าแบบมหาโหดเช่นนี้ไม่เป็นผลดี แต่ผู้นำสหรัฐฯ ไม่รับฟัง
สมาคมการค้าขนาดใหญ่ รวมถึงล็อบบี้ยิสต์ซึ่งเป็นตัวแทนบริษัทในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ยอมรับว่า มีความพยายามเจรจาหลังม่านเพื่อโน้มน้าวทำเนียบขาวและกระทรวงพาณิชย์ให้กำหนด “ข้อยกเว้น” สำคัญๆ ในนโยบายภาษีนำเข้าที่สหรัฐฯ เตรียมประกาศใช้ เช่น ยกเว้นการขึ้นภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมจากบางประเทศ หรือโลหะบางชนิดที่ไม่สามารถพบได้ในสหรัฐฯ เป็นต้น
บริษัทที่ผลิตเครื่องดื่มหรือซุปบรรจุกระป๋องเป็นกลุ่มที่ออกมาคัดค้านการขึ้นภาษีนำเข้ามากที่สุด
“เช่นเดียวกับผู้ผลิตส่วนใหญ่ เรามียอดจำหน่ายเบียร์กระป๋องเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และการขึ้นภาษีนำเข้าจะทำให้ราคาอะลูมิเนียมแพงขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้อุตสาหกรรมเบียร์ต้องปลดพนักงานออก” คอลิน วีลเลอร์ โฆษกบริษัทมิลเลอร์คูร์ส (MillerCoors) ระบุ
กลุ่มบริษัทผู้ผลิตกระป๋องอะลูมิเนียมเตรียมส่งตัวแทนเข้าพบสมาชิกสภาคองเกรสและเจ้าหน้าที่รัฐบาลในสัปดาห์หน้า
“วิลเบอร์ รอสส์ ไม่ได้ตระหนักว่า ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นเพียงไม่กี่เซนต์จากกระป๋องบรรจุอาหารและผลิตภัณฑ์ทั่วไป 115,000 ล้านกระป๋อง มันจะเป็นเงินมากขนาดไหน” โรเบิร์ต บัดเวย์ ประธานสถาบันผู้ผลิตกระป๋องในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ให้สัมภาษณ์
ทรัมป์ แถลงเมื่อวันพฤหัสบดี (1) ว่า มาตรการขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมซึ่งจะช่วยปกป้องตำแหน่งงานของชาวอเมริกัน จะถูกประกาศอย่างเป็นทางการในสัปดาห์หน้า
“เมื่อประเทศหนึ่ง (สหรัฐฯ) ต้องสูญเสียเม็ดเงินหลายพันล้านดอลลาร์ให้กับทุกๆ ประเทศที่ทำการค้าด้วย สงครามการค้าจึงเป็นเรื่องที่ดี และง่ายที่จะเอาชนะ” ทรัมป์ ทวีตข้อความเมื่อวันศุกร์ (2)
เมห์เม็ต ซิมเซก รองนายกรัฐมนตรีตุรกี ได้ออกมาตอบโต้ทวีตของ ทรัมป์ ว่า “สงครามการค้าไม่เคยมีผู้ชนะ”
นาวาร์โร ซึ่งเป็นผู้อำนวยการสภาการค้าแห่งชาติของทำเนียบขาว ตั้งคำถามผ่านฟ็อกซ์นิวส์ว่า “เราเก็บภาษีนำเข้าในอัตราต่ำที่สุดในโลก แล้วสุดท้ายเราได้อะไร? ขาดดุลการค้าปีละครึ่งแสนล้าน”