ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงในเช้าวันนี้ โดยได้รับแรงกดดันจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดร่วงลงเมื่อคืน หลังจากรัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็ก และอลูมิเนียม จากแคนาดา เม็กซิโก และสหภาพยุโรป (EU) ขณะที่ประเทศคู่ค้าเหล่านี้ได้ออกมาตรการตอบโต้สหรัฐฯ ทันที ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลว่าอาจจะนำไปสู่การทำสงครามการค้าในไม่ช้านี้
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เปิดวันนี้ที่ 22,126.25 จุด ลดลง 75.57 จุด, -0.34% ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เปิดวันนี้ที่ 3,084.75 จุด ลดลง 10.72 จุด, -0.35% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เปิดวันนี้ที่ 30,548.78 จุด เพิ่มขึ้น 80.22 จุด, +0.26% ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เปิดวันนี้ที่ 10,882.68 จุด เพิ่มขึ้น 7.72 จุด, +0.07% ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เปิดวันนี้ที่ 2,419.63 จุด ลดลง 3.38 จุด, -0.14% ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เปิดวันนี้ที่ 3,423.50 จุด ลดลง 4.68 จุด, -0.14% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เปิดวันนี้ที่ 1,739.93 จุด ลดลง 0.69 จุด, -0.04%
นายวิลเบอร์ รอสส์ รมว.พาณิชย์สหรัฐ กล่าวว่า สหรัฐฯ จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็ก 25% และภาษีนำเข้าอลูมิเนียม 10% จากแคนาดา เม็กซิโก และ EU โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันนี้เวลา 11.00 น. ตามเวลาไทย หลังจากที่การเจรจาระหว่างสหรัฐฯ และ EU ประสบความล้มเหลว
ทางด้านประเทศคู่ค้าของสหรัฐฯ เหล่านี้ได้ออกมาส่งสัญญาณตอบโต้ทันที โดยรัฐบาลแคนาดาประกาศว่าจะเรียกเก็บภาษีสินค้าเหล็ก และอลูมิเนียม รวมทั้งสินค้าอื่นๆ ที่นำเข้าจากสหรัฐฯ ขณะที่สหภาพยุโรป (EU) และเม็กซิโก ประกาศมาตรการตอบโต้สหรัฐฯ เช่นกัน โดย EU ได้ประกาศรายชื่อสินค้าสหรัฐฯ หลายร้อยรายการที่จะถูกเรียกเก็บภาษี นับตั้งแต่เนยถั่วไปจนถึงมอเตอร์ไซค์ ส่วนเม็กซิโก ประกาศว่าจะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงเนื้อสุกร, แอปเปิล, องุ่น, ชีส และเหล็กแผ่น