เอเจนซีส์ - ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวหาอาร์เจนตินาและบราซิลในวันจันทร์ (2 ธ.ค.) ว่าทำร้ายเกษตรกรอเมริกันด้วยการปั่นค่าเงิน พร้อมทั้งบอกด้วยว่า จะตั้งกำแพงภาษีสินค้านำเข้าประเภทเหล็กและอลูมิเนียมจากสองชาตินี้เพื่อเป็นการตอบโต้ นอกจากนี้ ทรัมป์ยังเรียกร้องให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ดำเนินการเพื่อป้องกันการลดค่าเงินของประเทศอื่นๆ
ทั้งอาร์เจนตินาและบราซิลที่อยู่ในทวีปอเมริกาใต้ ล้วนอยู่ในกลุ่มชาติพันธมิตรสหรัฐฯ ที่ทรัมป์เคยยกเว้นการตั้งกำแพงภาษีสินค้านำเข้าสินค้าประเภทเหล็กและอลูมิเนียมเมื่อเดือนมีนาคม 2018
ไม่กี่ชั่วโมงก่อนจะออกเดินทางในวันจันทร์เพื่อไปร่วมประชุมนาโตที่ลอนดอน ทรัมป์ได้ระบุทางทวิตเตอร์ว่า บราซิลและอาร์เจนตินาเป็นหัวโจกในการลดค่าเงินตัวเอง ซึ่งไม่ส่งผลดีต่อเกษตรกรอเมริกัน ด้วยเหตุนี้ จึงต้องกลับมาตั้งกำแพงภาษีสินค้านำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมจากสองประเทศนี้ โดยจะมีผลทันที
ทรัมป์ยังบอกด้วยว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ ควรจะดำเนินการด้วยเช่นกันต่อประเทศเหล่านี้ ไม่ให้ฉวยโอกาสเอาเปรียบค่าเงินดอลลาร์ที่เข้มแข็งด้วยการลดค่าเงินตัวเอง ซึ่งทำให้เกษตรกรและผู้ผลิตอเมริกันไม่สามารถแข่งขันในการส่งออกสินค้าได้อย่างเป็นธรรม
ที่ผ่านมา ทรัมป์เคยกล่าวโจมตี เจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มาแล้วหลายครั้ง เรื่องที่ไม่ยอมลดอัตราดอกเบี้ยตามที่ประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันรายนี้ต้องการ
สงครามการค้าที่ทรัมป์เปิดศึกกับจีนนั้นได้ทำให้เกษตรกรชาวอเมริกันต้องเจ็บช้ำ เนื่องจากทางปักกิ่งตอบโต้ด้วยการไม่ซื้อสินค้าผลผลิตทางการเกษตรจากสหรัฐฯ
นับตั้งแต่ทรัมป์ตั้งกำแพงภาษีเหล็กเมื่อปีที่แล้ว ก็ทำให้ราคาเหล็กในสหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้น ความต้องการใช้เหล็กในอุตสาหกรรมพลังงานลดลงเนื่องจากผู้ทำธุรกิจขุดเจาะชะลอการซื้อท่อเหล็ก
U.S. Steel ผู้ทำธุรกิจเหล็กในสหรัฐฯ เมื่อไตรมาสที่แล้ว มีรายงานว่าขาดทุนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ช่วงต้นปี 2017 โดยทางผู้ผลิตท่อเหล็กให้อุตสาหกรรมพลังงานรายนี้มีการขาดทุนหลายล้านดอลลาร์ ต้องเลิกจ้างแรงงาน
ราคาหุ้นของบริษัทดังกล่าวที่ตั้งอยู่ในพิตสเบิร์ก ลดลงไปถึง 43 เปอร์เซ็นต์ในรอบปี ขณะที่ราคาหุ้นของ AK Steel ก็ลดลงไป 10 เปอร์เซ็นต์ แม้ว่าดัชนีตลาดหุ้น S&P 500 จะพุ่งสูงขึ้นก็ตาม