รอยเตอร์/มาร์เกตวอตช์ - วอลล์สตรีทปิดลบในวันอังคาร (3 ธ.ค.) เจอแรงเทขาย 3 วันติด หลังแนวโน้มทางบวกเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนเริ่มเหือดหาย ปัจจัยนี้ดันราคาทองคำพุ่งแรง ส่วนตลาดน้ำมันขยับขึ้นในกรอบแคบๆ จับตาที่ประชุม OPEC+
ดาวโจนส์ ลดลง 280.23 จุด (1.01 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 27,502.81 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 20.67 จุด (0.66 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,093.20 จุด แนสแดค ลดลง 47.34 จุด (0.55 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 8,520.64 จุด
ความหวังแห่งการหาทางออกอย่างรวดเร็วจากข้อพิพาททางการค้าเหือดหายลงไป หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ บ่งชี้ว่าข้อตกลงการค้ากับจีนอาจต้องรอจนถึงหลังเลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกาในเดือนพฤศจิกายน 2020
ขณะเดียวกัน วิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ก็ยืนยันว่ามาตรการรีดภาษีสินค้านำเข้าจากจีนรอบใหม่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 15 ธันวาคม ตามกำหนด จนกว่าการเจรจาจะมีความคืบหน้าอย่างมาก
คำพูดดังกล่าวของทรัมป์ขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง หลังจากเมื่อวันจันทร์ (2 ธ.ค.) เขาขู่จะรีดภาษีการค้าบราซิลและอาร์เจนตินา โดยกล่าวหาทั้งสองชาติทำร้ายเกษตรกรอเมริกันด้วยการปั่นค่าเงิน "ลดค่าเงินตัวเอง"
จากนั้นสหรัฐฯได้ขู่จะเก็บภาษีศุลกากรในอัตรา 100% จากสินค้านำเข้าฝรั่งเศสมูลค่า 2,400 ล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงสินค้าอุปโภคบริโภคอย่างแชมเปญ, กระเป๋าถือ, ชีส และผลิตภัณฑ์อื่นๆ เพื่อตอบโต้การเรียกเก็บภาษีบริการดิจิทัลของฝรั่งเศส ที่ทางวอชิงตันระบุว่ามันทำร้ายบรรดาบริษัทเทคโนโลยีสหรัฐฯ
ความเป็นไปได้ที่ข้อตกลงทางการค้าอาจต้องลากยาวไปหลังศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ผลักนักลงทุนหันถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำและดันราคาทองคำในวันอังคาร (3 ธ.ค.) พุ่งแรง โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 15.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,484.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ส่วนราคาน้ำมันในวันอังคาร (3 ธ.ค.) ปิดทรงตัว หลังความคาดหมายว่าโอเปกและพันธมิตรจะขยายมาตรการลดกำลังผลิต ช่วยยันความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจ อันเนื่องจากแนวโน้มข้อตกลงการค้าอาจยืดเยื้อจนถึงปีหน้า
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 14 เซ็นต์ ปิดที่ 56.10 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ลอนดอนงวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 10 เซ็นต์ ปิดที่ 60.82 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
รอยเตอร์อ้างแหล่งข่าววงในเปิดเผยว่า โอเปกและพันธมิตร หรือที่รู้จักกันในนาม OPEC+ กำลังหารือกันในแผนหนึ่งเกี่ยวกับการปรับลดกำลังผลิตเพิ่มเติมอีก 400,000 บาร์เรลต่อวัน จากเดิมอยู่ที่ 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน และขยายกรอบเวลาของข้อตกลงดังกล่าวไปจนถึงเดือนมิถุนายน