ซีเอ็นบีซี/รอยเตอร์ - ราคาน้ำมันและวอลล์สตรีทขยับขึ้นในวันอังคาร (26 พ.ย.) หลังมีข่าวเจ้าหน้าที่สหรัฐฯกับจีนต่อสายหารือทางการค้ารอบใหม่ในวันเดียวกัน ท่ามกลางสัญญาณทางบวกจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขณะที่ทองคำปิดบวกเล็กน้อยจากข้อมูลความเชื่อมั่นผู้บริโภคอเมริกา
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 40 เซ็นต์ ปิดที่ 58.41 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ลอนดอนงวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 62 เซ็นต์ ปิดที่ 64.27 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ระบุในวันอังคาร (26 พ.ย.) สหรัฐฯ และจีนใกล้บรรลุข้อตกลงการค้าเฟส 1 แล้ว หลังคณะผู้แทนเจรจาระดับสูงจากทั้งสองประเทศได้พูดคุยกันทางโทรศัพท์ และเห็นพ้องเดินหน้าทำงานในประเด็นต่างๆ ที่ยังค้างคาอยู่
ทรัมป์บอกว่าวอชิงตันอยู่ในการทำงานขั้นท้ายๆ ของข้อตกลง ซึ่งจะช่วยปลดชนวนสงครามการค้ากับปักกิ่งที่ยืดเยื้อมานานกว่า 16 เดือน แต่เน้นย้ำจุดยืนที่สหรัฐฯสนับสนุนพวกผู้ประท้วงในฮ่องกง คำพูดที่อาจทิ่มแทงใจดำจีน
“เราอยู่ในขั้นสุดท้ายของข้อตกลงที่สำคัญมาก ผมสามารถบอกกับพวกคุณได้เลยว่ามันอาจเป็นหนึ่งในข้อตกลงการค้าที่สำคัญที่สุดเท่าที่เคยมีมา มันกำลังเป็นไปด้วยดี แต่ในเวลาเดียวกัน เราก็อยากเห็นสถานการณ์ในฮ่องกงเป็นไปด้วยดีเช่นกัน” ทรัมป์บอกกับพวกผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาว
ทรัมป์บอกว่าเขามีความสัมพันธ์ที่ดียิ่งกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และคาดหมายว่าเขาจะรับประกันผลลัพธ์ในทางบวกในฮ่องกง ดินแดนภายใต้การปกปครองของจีนที่พรรคต่างๆฝ่ายสนับสนุนประชาธิปไตยคว้าเก้าอี้สภาเขตมาได้เกือบ 90% จากทั้งหมด 452 ที่นั่ง ในศึกเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
“ผมคิดว่าประธานาธิบดีสีสามารถทำมันให้เกิดขึ้นได้ ผมรู้จักเขาและผมรู้ว่าเขาก็อยากให้มันเกิดขึ้น” ทรัมป์ระบุ โดยปราศจากการระบุอย่างแน่ชัดว่าเขาคาดหมายว่าสีจะดำเนินการอย่างไร
ความเห็นของเขามีขึ้นหลังการพูดคุยทางโทรศัพท์ในวันอังคาร (26 พ.ย.) ระหว่าง โรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ และ สตีฟ มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ กับ หลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน ตามการเปิดเผยของกระทรวงพาณิชย์จีน
กระทรวงพาณิชย์ของจีนเปิดเผยว่า คณะผู้แทนเจรจาระดับสูงของสหรัฐฯ และจีนได้พูดคุยกันทางโทรศัพท์ ในขณะที่ทั้งสองฝ่ายพยายามหาทางเคาะให้ได้ข้อสรุปข้อตกลงการค้าเฟส 1
ทั้งนี้ ความเห็นในแง่บวกของทรัมป์เกี่ยวกับการเจรจาทางการค้า ช่วยดันตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดบวกในวันอังคาร (26 พ.ย.) โดยทั้ง 3 ดัชนีทรงตัวในระดับสูงสุดตลอดกาล
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 55.21 จุด (0.20 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 28,121.68 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 6.88 จุด (0.22 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,140.52 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 15.45 จุด (0.18 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 8,647.93 จุด
อย่างไรก็ตาม วอลล์สตรีทขยับขึ้นไม่มากนัก หลังถูกฉุดจากความกังวลเกี่ยวกับข้อมูลทางเศรษฐกิจ ในนั้นรวมถึงข้อมูลผู้บริโภคสหรัฐฯ หลังผลสำรวจของ Conference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ พบว่าดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯลดลงสู่ระดับ 125.5 ในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 และต่ำกว่า ระดับ 126.6 อันเป็นตัวเลขที่พวกนักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ลดลง 0.7% ในเดือนตุลาคม เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 733,000 ยูนิต
ส่วนราคาทองคำในวันอังคาร (26 พ.ย.) ปิดบวกในกรอบแคบๆ นักลงทุนจับตาข้อมูลความเชื่อมั่นผู้บริโภคและการเจรจาการค้าระหว่งสหรัฐฯ กับจีน โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 3.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,460.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์