รอยเตอร์/เอเอฟพี - วอลล์สตรีทขยับขึ้นเล็กน้อยในวันจันทร์ (18 พ.ย.) นักลงทุนทบทวนข่าวพาดหัวต่างๆ นานาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ปัจจัยนี้ฉุดตลาดน้ำมันปิดลบ ขณะที่ทองคำปรับขึ้นพอสมควร
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 31.33 จุด (0.11 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 28,036.22 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 1.57 จุด (0.05 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,122.03 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 9.11 จุด (0.11 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 8,549.94 จุด
ตลาดดูเหมือนขานรับข่าวสหรัฐฯ อนุมัติขยายเวลาให้บริษัทต่างๆ ของอเมริกาทำธุรกิจกับหัวเว่ย หลังก่อนหน้านี้บริษัทเทคโนคมนาคมยักษ์ใหญ่ของจีนถูกสหรัฐฯ ใส่ในบัญชีดำคว่ำบาตรในเดือนพฤษภาคม
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนอยู่ในท่าทีที่ลังเลใจ หลังซีเอ็นบีซีรายงานว่าความเป็นไปได้ในการบรรลุขเอตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนดูเหมือนจะลดน้อยถอยลงไป เนื่องจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลังเลที่จะถอนมาตรการรีดภาษีตามความต้องการของปักกิ่ง
ข่าวคราวในแง่ลบมีออกมา ทั้งที่เมื่อวันเสาร์ (16 พ.ย.) สื่อมวลชนแห่งรัฐของจีนรายงานว่าทั้งสองฝ่ายได้มีการเจรจาทางการค้าอย่างสร้างสรรค์ ซึ่งมันเกิดขึ้นไม่กี่วันหลังจาก แลร์รี คุดโลว์ ที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจทำเนียบขาวบอกว่าพวกเขาใกล้บรรลุข้อตกลงกันแล้ว
ด้านราคาน้ำมันในวันจันทร์ (18 พ.ย.) ขยับลงพอสมควร นักลงทุนจับตาพัฒนาการเกี่ยวกับการเจรจาทางการค้าระหว่างวอชิงตันกับปักกิ่ง และข้อมูลกำลังผลิตของสหรัฐฯ
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 67 เซ็นต์ ปิดที่ 57.05 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ลอนดอนงวดส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 86 เซ็นต์ ปิดที่ 62.44 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ข้อมูลที่เผยแพร่โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานแห่งสหรัฐฯ ในวันจันทร์ (18 พ.ย.) คาดหมายว่ากำลังผลิตน้ำมันชั้นหินของสหรัฐฯ น่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยประมาณการว่าน่าจะเพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 49,000 บาร์เรลต่อวัน เป็น 9.133 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนธันวาคม
ส่วนราคาทองคำปิดบวกในวันจันทร์ (18 พ.ย.) หลังดอลลาร์อ่อนค่าลง กระตุ้นให้นักลงทุนหันถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 3.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,471.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์