รอยเตอร์/มาร์เกตวอตช์ - ราคาน้ำมันขยับลงและวอลล์สตรีทปิดในกรอบแคบๆ ในวันจันทร์ (11 พ.ย.) หลังสถานการณ์การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนเมื่อเร็วๆ นี้ รื้อฟื้นความกังวลว่าแนวโน้มข้อพิพาทอาจยืดเยื้อต่อไป ขณะที่ทองคำปรับลด
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 38 เซ็นต์ ปิดที่ 56.86 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ลอนดอนงวดส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 33 เซ็นต์ ปิดที่ 62.18 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (9 พ.ย.) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ บอกว่าการเจรจาระหว่างจีนกับสหรัฐฯเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าบางส่วน หรือที่เรียกว่า “เฟส 1” กำลังดำเนินไปอย่างราบรื่น แต่ขณะเดียวกัน ระบุรายงานข่าวที่ว่าทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องถอนมาตรการรีดภาษีกันและกันอย่างเป็นขั้นตอนนั้น “ไม่ถูกต้อง “พร้อมเน้นย้ำถึงความเชื่อของเขาที่ว่าปักกิ่งต้องการทำข้อตกลงมากกว่าวอชิงตัน
ความเห็นดังกล่าวกระตุ้นข้อสงสัยเกี่ยวกับแนวโน้มของข้อตกลงการค้าระยะสั้นระหว่าง 2 ชาติผู้บริโภคพลังงานรายใหญ่ที่สุดของโลก และกระพือความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ทางพลังงาน
ทั้งนี้ ความไม่แน่นอนที่ผุดขึ้นมาอีกรอบในการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ฉุดวอลล์สตรีทปิดทรงตัวในวันจันทร์ (11 พ.ย.) แม้ดาวโจนส์ได้แรงหนุนจากหุ้นของโบอิ้ง
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 10.25 จุด (0.04 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 27,691.49 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 6.07 จุด (0.20 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,087.01 จุด แนสแดค ลดลง 11.04 จุด (0.13 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 8,464.28 จุด
ความหวังของนักลงทุนต่อข้อตกลงการค้า “เฟส 1” เป็นปัจจัยหลักสนับสนุนตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อเร็วๆ นี้ แต่เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทรัมป์บอกว่าวอชิงตันจะทำข้อตกลงก็ต่อเมื่อมันเป็นข้อตกลงที่เหมาะสมสำหรับอเมริกาเท่านั้น พร้อมระบุว่าการเจรจาเดินหน้าไปค่อนข้างช้ากว่าที่เขาอยากให้เป็น
วอลล์สตรีทได้แรงหนุนอยู่บ้างจากหุ้นของโบอิ้ง โค ที่ขยับขึ้น 5.0% สู่ระดับ 368.45 ดอลลาร์ หลังผู้ผลิตเครื่องบินแห่งนี้คาดหมายว่าคณะผู้ควบคุมกฎระเบียบสหรัฐฯ จะอนุมัติให้นำฝูงบินแม็กซ์ 737 ซึ่งถูกห้ามบินทั่วโลก กลับคืนสู่ท้องฟ้าในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า และคาดหมายว่าจะสามารถกลับมาให้บริการทางพาณิชย์อีกครั้งในเดือนมกราคม
ด้านราคาทองคำในวันจันทร์ (11 พ.ย.) ปิดลบพอสมควร หลังอุปสงค์สินทรัพย์เสี่ยงต่ำอ่อนแอ โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 5.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,457.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์