เอเจนซีส์ - มหาวิทยาลัย 2 แห่งในออสเตรเลียประกาศตัดความสัมพันธ์กับมูลนิธิซึ่งก่อตั้งโดยเจ้าชายแอนดรูว์ ดยุคแห่งยอร์ค หลังจากที่ทรงประกาศว่าไม่เสียพระทัยที่ได้รู้จักกับ เจฟฟรีย์ เอปสตีน มหาเศรษฐีอเมริกันซึ่งก่อคดีล่วงละเมิดทางเพศและค้าประเวณีเด็กหญิง
มหาวิทยาลัยบอนด์ในรัฐควีนส์แลนด์ และมหาวิทยาลัย RMIT ในนครเมลเบิร์น ประกาศยุติความร่วมมือกับ Pitch@Palace ซึ่งเป็นมูลนิธิที่เจ้าชายแอนดรูว์ทรงก่อตั้งขึ้นในปี 2014 เพื่อให้ผู้ประกอบการแข่งขันนำเสนอแนวคิดทางธุรกิจกับนักธุรกิจทรงอิทธิพล โดยโครงการนี้ดำเนินงานใน 64 ประเทศ และช่วยสร้างงานแล้วกว่า 6,300 ตำแหน่ง
มหาวิทยาลัยบอนด์ยอมรับว่ามีแผนที่จะทบทวนการทำงานร่วมกับ Pitch@Palace ในปีหน้า แต่ข่าวฉาวที่ออกมาทำให้ทางมหาวิทยาลัยตัดสินใจระงับความสัมพันธ์ทันที
“สถานการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุดทำให้ทางมหาวิทยาลัยไม่ต้องการมีส่วนเกี่ยวข้องอีกต่อไป” โฆษกมหาวิทยาลัยยืนยันกับเอเอฟพี
ด้าน RMIT ก็ระบุในทำนองเดียวกันว่า “ความเกี่ยวข้องกับ Pitch@Palace สิ้นสุดลงในเดือน ต.ค. ปี 2019” และจะไม่มีการสานต่อใดๆ อีก
“เรามีความมุ่งมั่นที่จะทำให้ RMIT เป็นสถาบันที่ปลอดภัย และเหมาะสมสำหรับการทำงานและการศึกษาเล่าเรียน” มหาวิทยาลัยระบุ
ล่าสุด มหาวิทยาลัยเมอร์ด็อคเป็นสถาบันการศึกษาแห่งที่ 3 ในออสเตรเลียที่ประกาศ “ทบทวนการสนับสนุนที่จะให้กับกิจกรรมของ Pitch@Palace ในปี 2020”
ภาคธุรกิจและมหาวิทยาลัยหลายแห่งในสหราชอาณาจักรเองก็ประกาศไม่ร่วมสังฆกรรมกับเจ้าชายแอนดรูว์ ตลอดจนมูลนิธิต่างๆ ของพระองค์แล้วเช่นกัน โดยทั้งหมดนี้เกิดขึ้นหลังจากที่พระราชโอรสองค์ที่ 2 ของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงออกมาให้สัมภาษณ์ปฏิเสธว่าไม่เคยรู้จักหรือมีเพศสัมพันธ์กับ เวอร์จิเนีย โรเบิร์ตส เด็กสาววัย 17 ปี จนมีเสียงประณามอื้ออึงว่าไม่ทรงสำนึกผิดต่อสิ่งที่กระทำไป
หญิงสาวอเมริกันผู้นี้เป็นหนึ่งในเหยื่อกว่าสิบคนของเอปสตีน โดยเธอระบุว่าเคยถูกบังคับให้หลับนอนกับเจ้าชายแอนดรูว์ถึง 3 ครั้ง โดยในครั้งแรกนั้นเธออายุเพียง 17 ปี
เอปสตีน วัย 66 ปี ฆ่าตัวตายในเรือนจำนิวยอร์กเมื่อวันที่ 10 ส.ค. ที่ผ่านมา ระหว่างรอการไต่สวนความผิดฐานจัดหาเยาวชนอายุต่ำสุด 14 ปีมาค้าประเวณี
ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด และ KPMG บริษัทบัญชีชื่อดังของโลก เป็นหนึ่งในหลายๆ สถาบันที่ตัดสินใจถอนสปอนเซอร์มูลนิธิ Pitch@Palace ของเจ้าชายแอนดรูว์