นักวิชาการแนะผู้ประท้วงมอบตัวอย่าขัดขืน แม่ร่ำไห้ห่วงลูกชายติดอยู่ในม็อบ

เอเจนซีส์ - เอริค เฉิง นักวิชาการด้านกฏหมายของมหาวิทยาลัยฮ่องกง เรียกร้องต่อกลุ่มผู้ประท้วงหัวรุนแรงภายในมหาวิทยาลัยโพลีเทคนิค (โพลียู) ว่าอย่ากระทำสิ่งที่ไม่จำเป็นอย่างเช่นโจมตีเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือขัดขืนการจับกุม

เขาเชื่อว่า บางคนอาจจะเพิ่งเข้าไปหรืออยู่ในนั้นอยู่แล้วด้วยเหตุผลอะไรบางอย่างที่ไม่ผิดกฏหมาย อาทิ ดูแลรักษาผู้บาดเจ็บ ร่วมการประท้วงอย่างสันติ หรือปกป้องสถานศึกษาจากการถูกบุกรุก จึงควรออกมามอบตัว แม้จะถูกจับกุมก็อาจจะไม่มีหลักฐานเอาผิดว่าก่อเหตุจลาจล ซึ่งเป็นความผิดที่มีโทษจำคุก 10 ปี

ตำรวจเปิดเผยว่า พบผู้ก่อเหตุจลาจลประมาณ 20 ราย พยายามหลบหนีออกจากโพลียูผ่านทางรางรถไฟของสถานีฮ่องฮำ เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปจากทางสถานีมงก๊ก เพื่อไปสถานีฮ่องฮำ จนพบและสามารถจับกุมได้ประมาณ 10 บนรางรถไฟ ผู้ประท้วงเหล่านี้ถูกนำตัวขึ้นรถไฟไปยังสถานีตำรวจใกล้เคียงเพื่อดำเนินการตามกฏหมายต่อไป

ด้านบริษัท MTR Corp ซึ่งเป็นผู้ให้บริการรถไฟใต้ดิน ยืนยันว่ามีผู้พยายามหลบหนีผ่านทางรางรถไฟจริงในวันจันทร์ ขณะที่หยุดให้บริการรถไฟใต้ดิน จึงได้แจ้งเรื่องนี้ไปยังตำรวจ

ขณะที่หญิงรายหนึ่งร่ำไห้กระวนกระวายใจเร่งรีบเดินทางไปยังโรงพยาบาลควีนเอลิซาเบ็ธเพื่อตามหาลูกชาย หลังทราบข่าวจากครูและเพื่อนว่าลูกชายเข้าร่วมก่อเหตุจลาจลที่มหาวิทยาลัยโพลีเทคนิคจนได้รับบาดเจ็บ และไม่ชัดเจนว่ายังอยู่ในมหาวิทยาลัยดังกล่าวหรือไม่

"เมื่อวานนี้เขายังอยู่ที่บ้านก่อนที่ฉันจะไปทำงาน ตอนนี้ฉันไม่รู้แล้วว่าเขาหายไปไหน เขายังไม่กลับบ้าน" เธอพูดพร้อมกับโชว์ภาพอาการบาดเจ็บของลูกชายในโทรศัพท์ที่ครูส่งมาให้ดู

"เขาอายุแค่ 17 ปี เขาอาจไม่รอดถ้าไม่ได้รับการรักษา ฉันยอมให้เขาถูกจับดีกว่าต้องตาย" เธอเล่าด้วยความกระวนกระวายใจ อย่างไรก็ตาม ทางโรงพยาบาลควีนเอลิซาเบ็ธไม่มีบันทึกว่าลูกชายของเธอเข้าไปที่นั่น ทำให้เธอต้องไปตามหาต่อที่สถานีตำรวจจิมซาจุ่ย