(เก็บความจากเอเชียไทมส์ www.asiatimes.com)
Hong Kong Poly U siege a ‘humanitarian crisis’
By Jeff Pao, Hong Kong
18/11/2019
นักศึกษาและผู้ประท้วงอื่นๆ จำนวนหลายร้อยคนซึ่งติดค้างถูกล้อมอยู่ภายในพื้นที่วิทยาเขตของมหาวิทยาลัยฮ่องกงโพลิเทคนิค กำลังเผชิญ “วิกฤตการณ์ด้านมนุษยธรรม” เนื่องจากอาหารและทรัพยากรทางการแพทย์มีอยู่จำกัด แต่ก็ยังมีผู้ประท้วงบางคนประกาศไม่ยอมแพ้ถึงแม้ต้องสูญเสียชีวิต
นักศึกษาและผู้ประท้วงจำนวนหลายร้อยคนตกค้างอยู่ภายในพื้นที่มหาวิทยาลัยฮ่องกงโพลิเทคนิค (Hong Kong Polytechnic University ใช้อักษรย่อว่า PolyU) โดยที่มีอาหารและทรัพยากรทางการแพทย์เหลืออยู่ปริมาณจำกัด ขณะที่วิทยาเขตแห่งนี้ถูกตำรวจปิดล้อมเอาไว้ตั้งแต่เมื่อคืนวันอาทิตย์ (17 พ.ย.)
ผู้คนซึ่งยังอยู่ภายใน PolyU มีทั้งอาจารย์, นักศึกษา, เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์, เจ้าหน้าที่ด้านสังคม, และนักข่าวนักหนังสือพิมพ์ พวกเขากำลังได้รับความทุกข์จาก “วิกฤตการณ์ด้านมนุษยธรรม” อันซัน ชาน ฟาง ออน-ชาน อดีตประธานคณะรัฐมนตรี (Chief Secretary) ของฮ่องกง กล่าวในวันจันทร์ (18 พ.ย.)
ชานเรียกร้องให้ แคร์รี ลัม ประธานผู้บริหารของฮ่องกง ออกคำสั่งให้ตำรวจยุติการยำเอาอาวุธสำหรับสังหารมาใช้ปราบปรามคนที่ยังอยู่ภายในมหาวิทยาลัย ตลอดจนจัดให้ผู้บาดเจ็บเข้าถึงบริการต่างๆ ทางการแพทย์
ยังมีผู้คนจำนวนหลายหมื่นคนออกมาชุมนุมในย่านจิมซาจุ่ย (Tsim Sha Tsui) ของฝั่งเกาลูนเมื่อวันจันทร์ (18 พ.ย.) เพื่อพยายามหาทางช่วยเหลือเหล่านักศึกษาที่ถูกตำรวจปิดล้อมอยู่ใน PolyU ซึ่งตั้งอยู่ในเขตฮุงฮอม (Hung Hom) ที่อยู่ไม่ห่างจากจิมซาจุ่ยเท่าใดนัก
โจเซฟ เซิน เซอคีว์น (Joseph Zen Ze-kiun) พระคาร์ดินัลประจำฮ่องกงของคริสต์ศาสนานิกายคาทอลิก ซึ่งปัจจุบันเกษียณอายุแล้ว กล่าวในคลิปวิดีโอชิ้นหนึ่งว่า เป็นเร่อง จำเป็นที่จะต้องเคารพปฏิบัติตามแนวความคิดด้านมนุษยธรรมแม้กระทั่งเมื่ออยู่ในช่วงสงคราม เขารบเร้าให้รัฐบาลเสนอบริการต่างๆ ทางการแพทย์แก่พวกที่ยังคงอยู่ภายในพื้นที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ หรืออย่างน้อยที่สุดก็ไม่ปิดกั้นไม่ให้เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์เข้าไปใน PolyU
ตอนที่แถลงสรุปสถานการณ์เมื่อบ่าย 16.00 น.วันจันทร์ (18 พ.ย.) โฆษกตำรวจระบุว่าพวกเขาจะอนุญาตให้คนบาดเจ็บภายใน PolyU ออกมาเพื่อไปรักษาตัวยังโรงพยาบาลได้ โดยที่จะติดตามดำเนินคดีคนเหล่านี้ในภายหลัง นอกจากนั้นตำรวจยังแถลงว่าได้อนุญาตให้หน่วยกาชาดฮ่องกงเข้าไปในวิทยาเขตแห่งนั้นตั้งแต่เมื่อเวลาราวๆ 14.00 น.
ตำรวจบอกด้วยว่าพวกเขาจะรอให้คนที่อยู่ในมหาวิทยาลัยยอมจำนนและมอบตัว แทนที่จะใช้กำลังบุกเข้าไปเพื่อจับกุมคนเหล่านี้ พวกเขากล่าวด้วยว่า ตำรวจอาจจะตกอยู่ในอันตรายได้ ถ้าหากพวกเขาถูก “ผู้ก่อจลาจล” โจมตีด้วยอาวุธเมื่อเข้าไปในมหาวิทยาลัย
ในการแถลงข่าวคราวนี้ ตำรวจระบุว่าผู้ที่เดินออกมาจากพื้นที่มหาวิทยาลัยซึ่งถูกปิดล้อมอยู่ทุกๆ คน อาจจะถูกตั้งข้อหาก่อการจลาจล
ทางด้านประชาคมชาวเน็ตพากันเรียกร้องให้จัดหาจัดส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม เป็นต้นว่า อาหารและน้ำ ไปให้พวกที่อยู่ภายในพื้นที่วิทยาเขต PolyU
ตั้งแต่ตอนเที่ยงวัน มีคนจำนวนหลายร้อยคนเริ่มโยนท่อนไม้ไผ่และขยะลงบนถนนนาธาน (Nathan Road) ถนนสายหลักของฝั่งเกาลูน ตำรวจเดินทางไปถึงบริเวณนี้เมื่อราวๆ 12.40 น. และจัดการเก็บกวาดทำความสะอาดถนน เพื่อให้รถตำรวจจำนวนหลายคันแล่นผ่านไปได้
แต่เมื่อตำรวจถอนกำลังออกไปแล้ว ผู้ประท้วงก็เข้ายึดถนนนาธานเอาไว้อีกครั้ง พร้อมกับตั้งข้อเรียกร้องให้ปล่อยตัวพวกนักศึกษาและผู้ประท้วงจากมหาวิทยาลัยฮ่องกงโพลิเทคนิค
ถึงเวลาประมาณบ่าย 13.30 น. มีคนเดินทางเข้ามาร่วมเพิ่มมากขึ้นอีก และเกิดการเผชิญหน้ากับตำรวจปราบจลาจลที่บริเวณถนนชาแธม เซาท์ (Chatham Road South)
ตำรวจได้ยิงแก๊สน้ำตาตลอดจนระเบิดพริกไทยเข้าใส่ผู้ประท้วงในระหว่างที่เกิดการปะทะกัน ฝ่ายผู้ประท้วงก็ตอบโต้ด้วยการขว้างก้อนอิฐและขวดแก้ว ตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัยไปประมาณ 10 คนในเขตนี้ระหว่างเวลาบ่าย 13.00 น. จนถึง 15.00 น.
วันอาทิตย์
.ในวันอาทิตย์ (17 พ.ย.) ผู้ประท้วงจำนวนหลายพันคนได้เข้ายึดสะพานคนเดินข้าม 2 สะพาน ที่เชื่อมระหว่างสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินฮุงฮอม กับมหาวิทยาลัยโพลิเทคนิค ครั้นถึงเวลา 17.30 น.ตอนเย็น ฝ่ายตำรวจส่งยานหุ้มเกราะหลายคันและรถบรรทุกติดตั้งเครื่องฉีดน้ำแรงสูงอีก 1 คันออกมาปฏิบัติการ ขณะที่ผู้ประท้วงตอบโต้ด้วยการขว้างระเบิดขวดน้ำมัน
เวลาประมาณ 19.00 น.วันอาทิตย์ (17 พ.ย.) พวกผู้ประท้วงเผาขยะเศษข้าวของต่างๆ บนสะพานคนเดินข้ามแห่งหนึ่ง แล้วล่าถอยเข้าไปภายในพื้นที่มหาวิทยาลัย ผู้คนซึ่งอยู่บนสะพานคนเดินข้ามอีกแห่งหนึ่งก็ล่าถอยเช่นกันเมื่อถึงช่วงกลางคืน อย่างไรก็ดี ตำรวจได้เข้าปิดล้อม PolyU เอาไว้และลาดตระเวนตรวจตราทางออกทุกๆ แห่ง
ตำรวจประกาศให้พื้นที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้เป็นสถานที่เกิดอาชญากรรม มีเพียงนักข่าวนักหนังสือพิมพ์ซึ่งมีบัตรผ่านสำหรับสื่อมวลชนเท่านั้น จึงจะได้รับอนุญาตให้ออกไปจาก PolyU ขณะที่คนอื่นๆ จะต้องถูกจับกุม
จนถึงเวลาประมาณ 21.00 น. ตำรวจบอกว่าก่อนที่พวกเขาจะยกระดับการปฏิบัติการของพวกเขา จะอนุญาตให้คนที่ติดอยู่ออกจากพื้นที่มหาวิทยาลัยโดยผ่านประตูทางออกเพียงประตูเดียว ปรากฏว่ามีคนราวๆ 50 คนเดินออกมาจากมหาวิทยาลัย แต่พวกเขาถูกตำรวจจับกุมในทันที
ยังมีสมาชิกหน่วยปฐมพยาบาลและชาวบ้านท้องถิ่นจำนวนหลายสิบคน ถูกจับกุมบนถนนสายต่างๆ ของย่านจิมซาจุ่ย ขณะที่พวกนักข่าวถูกตำรวจสั่งให้หยุดการบันทึกภาพ
มีชาวฮ่องกงหลายพันคนพยายามที่จะเข้าไปใกล้ๆ PolyU แต่ถูกยิงขับไล่ออกมาด้วยแก๊สน้ำตาและระเบิดพริกไทย
บุคคลที่อยู่ภายในพื้นที่มหาวิทยาลัยโพลิเทคนิคตลอดทั้งคืนวันอาทิตย์ (17 พ.ย.) ผู้หนึ่งเล่าให้เอเชียไทมส์ฟังว่า มีผู้ประท้วงหลายร้อยคนอยู่ข้างใน เขากล่าวว่าคนเหล่านี้จำนวนมากรู้สึกหดหู่สิ้นหวัง โดยที่ภายในมหาวิทยาลัยยังเหลืออาหารและทรัพยากรทางการแพทย์จำนวนเพียงจำกัด
ในเวลาเพียงแค่ 1 วัน จำนวนผู้ถูกจับกุมในเขตฮุงฮอม พุ่งขึ้นเป็นเกือบๆ 600 คน
เวลา 05.30 น.วันจันทร์ (18 พ.ย.) ตำรวจบุกเข้าไปในพื้นที่มหาวิทยาลัยและจับกุมผู้คนจำนวนหนึ่ง บางคนเป็นเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ อย่างไรก็ดี ในเวลาต่อมาตำรวจปฏิเสธว่าไม่ได้เข้าไปภายใน PolyU
ไม่นานนักหลังจากตำรวจเริ่มการปฏิบัติการ เติ้ง จินกวง (Teng Jin-guang) รองอธิการบดีของมหาวิทยาลัยฮ่องกงโพลิเทคนิค ได้แถลงผ่านทางคลิปวิดีโอ เรียกร้องให้คนที่อยู่ภายในมหาวิทยาลัย เดินออกมาอย่างสงบและยอมมอบตัว
โอเวน หลี่ (Owan Li) ตัวแทนนักศึกษาคนหนึ่งในสภามหาวิทยาลัยโพลิเทคนิค ได้วิพากษ์วิจารณ์เติ้งที่ไม่ได้ทำอะไรเพื่อช่วยเหลือคนที่ยังอยู่ภายในพื้นที่วิทยาเขต เขากล่าวว่ามีคนอย่างน้อยที่สุด 3 คนถูกยิงที่ตาด้วยกระสุนยางและกระสุนถุงตะกั่ว (bean bag rounds) ขณะที่อีกราว 40 คนรู้สึกไม่สบายหลังถูกฉีดน้ำใส่จากเครื่องฉีดน้ำกำลังแรง
ดีเรค หลิว คิน-ควาน (Derek Liu Kin-kwan) นายกสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยโพลิเทคนิค รบเร้าให้อาจารย์และศิษย์เก่าหาทางช่วยเหลือผู้คนประมาณ 500-600 คนซึ่งติดอยู่ภายในมหาวิทยาลัย เขากล่าวว่าคนเหล่านี้ประมาณ 60-70% เป็นนักศึกษา PolyU
ผู้ประท้วงบางรายกล่าวในคลิปวิดีโอของพวกเขาโดยระบุว่า พวกเขาเตรียมพร้อมแล้วที่จะสละชีวิต ถ้าหากตำรวจบุกจู่โจมเข้ามาในพื้นที่มหาวิทยาลัย
ในอีกด้านหนึ่ง มีการเผชิญหน้ากันระหว่างตำรวจกับผู้ประท้วงอย่างต่อเนื่องตามถนนสายต่างๆ ในเขตจิมซาจุ่ย, จอร์แดน (Jordan), และฮุงฮอม อย่างน้อยก็จนกระทั่งถึงช่วงบ่ายวันจันทร์ (18 พ.ย.)