เอเจนซีส์ – ผู้ประท้วงปะทะกับตำรวจในย่านศูนย์กลางธุรกิจและมหาวิทยาลัยหลายแห่งในวันอังคาร (12 พ.ย.) หรือหนึ่งวันหลังตำรวจใช้กระสุนจริงยิงเผาขนม็อบ และชายคนหนึ่งถูกผู้ประท้วงจุดไฟเผาทั้งเป็น ส่งผลให้มหาอำนาจตะวันตกเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายประนีประนอมกัน ขณะที่จีนไม่พอใจเพราะมองว่า การปกครองของตนเองกำลังถูกท้าทาย
กง วิง-เฉิง โฆษกสำนักงานตำรวจฮ่องกงแถลงช่วงบ่ายวันอังคาร (12 พ.ย.) ว่าหลักนิติธรรมของฮ่องกงใกล้ล่มสลาย พร้อมประณามเหตุรุนแรงล่าสุด ขณะเดียวกัน ในย่านศูนย์กลางธุรกิจซึ่งเป็นที่ตั้งบริษัทข้ามชาติระดับบลูชิปและร้านสินค้าหรูหรา พนักงานหลายพันคนชวนกันยึดถนนและตะโกน “สู้เพื่อเสรีภาพ ยืนหยัดเพื่อฮ่องกง!” ส่วนผู้ประท้วงหัวรุนแรงหลายร้อยคนที่สวมชุดดำและหน้ากาก นำรถเมล์ไปจอดกีดขวางถนนสายหลักเส้นหนึ่งในบริเวณนั้น
ม็อบหัวรุนแรงขว้างปาก้อนอิฐและวัตถุต่างๆ ก่อนล่าถอยเมื่อตำรวจปราบจลาจลยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่โดยมีร้านสินค้าไฮเอนด์เป็นฉากหลัง สะท้อนว่าผู้คนที่ยึดแนวทางสายกลางยังคงสนับสนุนการเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตย แม้มีการใช้ความรุนแรงมากขึ้นก็ตาม
ขณะเดียวกัน มหาวิทยาลัยกลายเป็นสนามรบใหม่ โดยมีการปะทะยืดเยื้อในมหาวิทยาลัยหลายแห่งเป็นครั้งแรก ที่มหาวิทยาลัยไชน่า ตำรวจระดมยิงแก๊สน้ำตาและกระสุนยางเข้าใส่ผู้ประท้วงนับร้อยคนที่สร้างสิ่งกีดขวางขึ้นมาป้องกันหลังเผชิญหน้ากันนานหนึ่งชั่วโมงในช่วงบ่าย และผู้ประท้วงตอบโต้ด้วยก้อนอิฐและระเบิดขวด รวมทั้งจุดไฟเผารถคันหนึ่งที่นำมาจอดขวางทาง
ส่วนที่มหาวิทยาลัยซิตี้ ผู้ประท้วงใช้หนังสติ๊กขนาดใหญ่ยิงก้อนอิฐจากสะพานลอยใส่ตำรวจ นักเคลื่อนไหวที่สวมหน้ากากยังสร้างสิ่งกีดขวางและปิดถนนหลายสายในมหาวิทยาลัยฮ่องกง นอกจากนี้ยังมีการปะทะในมหาวิทยาลัยโพลีเทคนิกขณะที่ตำรวจพยายามเข้าจับกุมนักศึกษาหญิงคนหนึ่ง
รายงานระบุว่า ในระหว่างชั่วโมงเร่งด่วนเช้าวันอังคาร ผู้ประท้วงปิดถนนหลายสาย ขว้างปาวัตถุต่างๆ บนรางรถไฟ และขัดขวางการให้บริการรถไฟใต้ดิน สร้างปัญหาในการเดินทางทั่วเมือง
การประท้วงเหล่านี้เกิดขึ้นจากความไม่พอใจที่ปักกิ่งเข้าควบคุมฮ่องกงมากขึ้น โดยผู้ประท้วงเรียกร้องให้จัดการเลือกตั้งผู้นำอย่างเสรี รวมทั้งตั้งคณะกรรมการอิสระตรวจสอบการใช้ความรุนแรงของตำรวจ
อย่างไรก็ตาม จีนไม่ยอมตามข้อเรียกร้องเหล่านั้น ซ้ำเตือนว่า อาจใช้มาตรการความมั่นคงที่เข้มงวดขึ้น และส่งสัญญาณหลายครั้งว่า พร้อมส่งกองกำลังเข้าสู่ฮ่องกงเพื่อยุติวิกฤต
ล่าสุดสื่อจีนเน้นย้ำความเป็นไปได้นี้อีกครั้ง หลังเกิดความรุนแรงในวันจันทร์ โดยชายคนหนึ่งถูกจุดไฟเผาทั้งเป็นโดยฝีมือคนสวมหน้ากาก หลังมีปากเสียงกับกลุ่มผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตย
ทางการจีน รวมถึงสื่อจีน ระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นตัวอย่างการใช้ความรุนแรงของผู้ประท้วง แม้ยังไม่รู้ตัวและยังไม่มีการจับกุมผู้ก่อเหตุก็ตาม
เมื่อวันจันทร์ ผู้ประท้วงตระเวนก่อความวุ่นวายในสถานีรถไฟหลายแห่ง ทำลายร้านค้า และปิดถนน เนื่องจากไม่พอใจที่ผู้ประท้วงคนหนึ่งถูกตำรวจใช้กระสุนจริงยิงในระยะเผาขนในช่วงเช้า โดยชายคนนี้และคนที่ถูกจุดไฟเผาต่างยังมีอาการวิกฤต
มอร์แกน ออร์เตกัส โฆษกหญิงกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงประณามการใช้ความรุนแรงของทุกฝ่ายในฮ่องกง และแสดงความเห็นใจเหยื่อไม่ว่าฝักใฝ่ฝ่ายใด พร้อมกันนี้ยังเรียกร้องให้ทั้งตำรวจและผู้ประท้วงใช้ความอดกลั้น
เหตุการณ์รุนแรงในวันจันทร์ยังทำให้อเมริกาและอังกฤษเรียกร้องให้ปักกิ่ง รวมถึงแคร์รี่ ลัม ผู้บริหารสูงสุดเขตปกครองพิเศษฮ่องกง หาทางประนีประนอมกับผู้ประท้วง
เกิง ฉวง โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน แถลงตอบโต้ว่า อังกฤษและอเมริกาไม่ควรแทรกแซงกิจการภายในของจีน ขณะที่ลัมประณามผู้ประท้วงเห็นแก่ตัว โดยหวังว่ามหาวิทยาลัยและโรงเรียนต่างๆ จะเรียกร้องให้นักเรียนนักศึกษางดเข้าร่วมการประท้วง