เอเจนซีส์ – ชาวออสเตรเลียหลายหมื่นคนอพยพไปยังศูนย์หลบภัยในวันอังคาร (12 พ.ย.) หลังทางการเตือนว่าสายเกินไปแล้วสำหรับประชาชนที่ยังไม่ทิ้งบ้านเรือนเพื่อหลบหนีออกนอกพื้นที่ ขณะที่ไฟป่าลุกลามกินอาณาบริเวณกว้างขวางทางชายฝั่งด้านตะวันออกของประเทศ ท่ามกลางสภาพอากาศร้อนเฉียด 40 องศาเซลเซียสและลมแรงจัด
ในวันอังคาร ทางการออสเตรเลียออกคำเตือนฉุกเฉิน 14 ฉบับในรัฐนิวเซาธ์เวลส์ แต่ละฉบับครอบคลุมชุมชนจำนวนมาก ขณะที่ไฟป่ากว่า 78 จุดทั่วรัฐลุกลามเกินการควบคุมท่ามกลางสภาพอากาศ “เลวร้ายขั้นวิกฤต” ในช่วงบ่ายแก่ๆ วันอังคาร
นอกจากนั้นยังมีรายงานว่า ไฟป่า 2 จุดทางชายฝั่งด้านเหนือในย่านเทอร์ราเมอร์ราที่อยู่ห่างจากตัวเมืองซิดนีย์ราว 15 กิโลเมตร ลุกลามไหม้ป่ายูคาลิปตัสและเผาผลาญบ้านเรือนบางส่วนก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าควบคุมเพลิงไว้ได้
ประกาศเตือนฉุกเฉินส่วนใหญ่จาก 14 ฉบับครอบคลุมย่านเซาธ์เทอร์ราเมอร์ราที่อยู่ห่างจากใจกลางเมืองซิดนีย์ไปทางเหนือ 20 กิโลเมตร โดยมีการแจ้งให้ประชาชนหาที่หลบภัยเนื่องจากสายเกินไปแล้วที่จะหนีออกนอกพื้นที่
เชน ฟิตซ์ซิมมอนส์ ผู้บัญชาการหน่วยดับเพลิงชนบทนิวเซาธ์เวลส์ ที่อัพเดตสถานการณ์ไฟป่าทุก 2 ชั่วโมงตลอดทั้งวัน ให้สัมภาษณ์ว่า ประชาชนไม่สามารถนิ่งนอนใจได้ สภาพอากาศจะยิ่งเลวร้ายตั้งแต่ช่วงบ่ายวันอังคารจนถึงค่ำ โดยคาดว่า อุณหภูมิจะสูงถึง 37 องศาเซลเซียส และลมแรงโดยมีความเร็วลม 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ในการอัพเดตสถานการณ์ช่วงบ่าย ฟิตซ์ซิมมอนส์ระบุว่า เจ้าหน้าที่ดับเพลิงคนหนึ่งเกิดอาการหัวใจวายขณะปฏิบัติหน้าที่ แต่ยังไม่รู้อาการล่าสุด
ไฟป่าเป็นภัยคุกคามอันตรายที่พบทั่วไปในฤดูร้อนแห้งแล้งของออสเตรเลีย แต่ไฟป่าปีนี้รุนแรงและมาถึงเร็วกว่าปกติ โดยเกิดขึ้นในฤดูใบไม้ผลิ
นอกจากลมแรงแล้ว ไฟป่าครั้งนี้ยังลุกลามในสภาพอากาศที่ร้อนจัดจากความแห้งแล้งนาน 3 ปีในหลายพื้นที่ของรัฐนิวเซาธ์เวลส์และควีนส์แลนด์ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญระบุว่า การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศทำให้ปัญหาเลวร้ายกว่าเดิม โดยในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีผู้เสียชีวิตจากไฟป่า 3 คน และบ้านเรือนกว่า 150 หลังถูกเผาทำลาย
เพื่อป้องกันไม่ให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม เจ้าหน้าที่ดับเพลิงทั้งในรัฐนิวเซาธ์เวลส์และควีนส์แลนด์ได้รับมอบอำนาจภายใต้การประกาศภาวะฉุกเฉินนาน 7 วันในการควบคุมทรัพยากรของรัฐบาล บังคับอพยพ ปิดถนน และระงับบริการสาธารณูปโภค
ที่ซิดนีย์ เมืองใหญ่ที่สุดของออสเตรเลียและเมืองหลวงของรัฐนิวเซาธ์เวลส์ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขขอให้ประชาชนที่มีปัญหาระบบทางเดินหายใจอยู่แต่ในบ้าน เนื่องจากมีหมอกควันพิษปกคลุมทั่วเมือง โรงเรียนและวิทยาลัยราว 600 แห่งทั่วรัฐปิดทำการ รวมทั้งอุทยานแห่งชาติหลายแห่ง
ซาราห์ มิตเชลล์ รัฐมนตรีศึกษารัฐนิวเซาธ์เวลส์ เผยว่า โรงเรียนรัฐบาล 9 แห่งทางเหนือของรัฐได้อพยพนักเรียนทั้งหมดเพื่อความปลอดภัย ไฟป่ารุนแรงครั้งนี้ยังทำให้ผู้จัดต้องยกเลิกงานแรลลี่ ออฟ ออสเตรเลีย ซึ่งเป็นการแข่งขันระหว่างรถฮุนไดกับโตโยต้า
ที่ควีนส์แลนด์ สถานการณ์ไม่อันตรายมากนัก โดยระดับภัยคุกคามอยู่ที่ “รุนแรง” ต่ำกว่าระดับ “วิกฤต” สองขั้น กระนั้น ในช่วงบ่ายวันอังคารมีไฟป่าเกิดขึ้น 55 จุดในรัฐนี้ที่อยู่ทางเหนือของประเทศ
ภัยคุกคามนี้ทำให้ผู้คนพุ่งความสนใจไปที่นโยบายของรัฐบาลอนุรักษนิยม ในการจัดการปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่สำนักงานรายงานสภาพอากาศของออสเตรเลียระบุว่า ทำให้ฤดูกาลไฟป่ายาวนานขึ้น
นายกรัฐมนตรี สก็อต มอร์ริสัน ซึ่งสนับสนุนอุตสาหกรรมถ่านหินของประเทศ ปฏิเสธการตอบคำถามว่า ไฟป่าในขณะนี้เป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหรือไม่
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันจันทร์ (11 พ.ย.) รองนายกรัฐมนตรี ไมเคิล แม็กคอร์มิก จุดชนวนการโต้เถียงดุเดือดจากการกล่าวหาว่า นักเคลื่อนไหวด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศนำโศกนาฏกรรมไฟป่ามาเป็นประเด็นทางการเมือง