เอเจนซีส์ - ผู้ว่าการแคลิฟอร์เนียประกาศภาวะฉุกเฉินทั่วรัฐเมื่อวันอาทิตย์ (27 ต.ค.) หลังมีกระแสลมแรงเกินคาดทำให้ต้องอพยพประชาชนราว 180,000 คนหนีไฟป่า นอกจากนั้นยังมีการดับไฟฟ้าครั้งใหญ่ครอบคลุมลูกค้าเกือบ 1 ล้านรายเพื่อป้องกันความเสี่ยงไฟป่าลุกลาม
“คินเคดไฟร์” ซึ่งถือเป็นไฟป่าที่รุนแรงที่สุดที่แคลิฟอร์เนียเผชิญในปีนี้ ปะทุขึ้นเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (23) ทางด้านเหนือของซานฟรานซิสโก และลุกลามอย่างรวดเร็วจากลมที่มีกำลังแรงถึง 145 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ครอบคลุมอาณาบริเวณ 30,000 เอเคอร์ และเผาทำลายหรือสร้างความเสียหายต่อสิ่งปลูกสร้างเกือบ 400 หลัง รวมถึงโรงกลั่นไวน์ โซดา ร็อก ไวเนอรี ในเมืองฮีลด์สเบิร์กที่สร้างขึ้นในปี 1869
โรงพยาบาลอย่างน้อย 2 แห่งในเมืองซานตาโรซาต้องย้ายผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลอื่นๆ ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
วันอาทิตย์ เกวิน นิวซอม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ประกาศภาวะฉุกเฉินครอบคลุมพื้นที่ทั่วรัฐเนื่องจากกระแสลมแรงเกินคาดเพิ่มความเสี่ยงที่ไฟป่าจะลุกลาม พร้อมเรียกร้องให้ประชาชนในพื้นที่อพยพปฏิบัติตามคำเตือนจากเจ้าหน้าที่ และสำทับว่า ทางรัฐใช้ทรัพยากรทั้งหมดที่มี รวมทั้งประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อต่อสู้กับไฟป่าอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี ล่าสุดสามารถควบคุมไฟป่าได้เพียง 10%
ทั้งนี้ ประชาชนราว 180,000 คนอยู่ภายใต้คำสั่งบังคับอพยพ ซึ่งรวมถึงบางพื้นที่ในซานตาโรซา และพื้นที่ขนาดใหญ่ในเทศมณฑลโซโนมาซึ่งเป็นแหล่งผลิตไวน์ชื่อดัง
สำนักงานเจ้าหน้าที่ปกครองโซโนมาทวิตว่า การอพยพครั้งนี้ถือเป็นครั้งใหญ่ที่สุดสำหรับเทศมณฑลและขอให้ประชาชนช่วยดูแลกัน
โฆษกสำนักงานบริการสภาพอากาศแห่งชาติ (เอ็นดับเบิลยูเอส) แถลงว่า พื้นที่เหล่านั้นจะยังคงอันตรายจนถึงช่วงเช้าวันจันทร์ (28) และสถานการณ์จะดีขึ้นจนกระทั่งช่วงคืนวันอังคาร (29) ที่คาดว่า จะมีลมแรงอีกระลอกพัดมาจากทางทิศเหนือ
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเตือนว่า หากไฟป่ายังคงลุกลามทางทิศตะวันตกและข้ามฟรีเวย์ 101 จะเกิดความเสียหายรุนแรงขึ้น เนื่องจากบริเวณดังกล่าวไม่มีไฟป่ามาตั้งแต่ทศวรรษ 1940
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกว่า 3,000 คน ร่วมกับเครื่องบินทิ้งสารหน่วงไฟและเฮลิคอปเตอร์ พยายามควบคุมไฟป่าซึ่งคาดว่า จะประสบความสำเร็จก่อนวันที่ 7 พฤศจิกายน
สัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดไฟป่าประเภทอื่นๆ ทั่วรัฐแคลิฟอร์เนียท่ามกลางกระแสลมแรง สภาพที่แห้งแล้ง และอุณหภูมิประมาณ 27-32 องศาเซลเซียส เช่น “ทิคไฟร์” ทางเหนือของเมืองลอสแองเจลีสที่ผลาญบ้านเรือนจำนวนมากใกล้เมืองซานตาแคลริตาและทำให้ต้องอพยพประชาชน
อย่างไรก็ดี คำสั่งอพยพส่วนใหญ่ได้รับการยกเลิก หลังจากเจ้าหน้าที่ดับเพลิงราว 1,000 คนสามารถควบคุมไฟป่าที่เผาผลาญพื้นที่ไปกว่า 4,500 เอเคอร์
ขณะเดียวกัน แปซิฟิก แก๊ส แอนด์ อิเล็กทริก (พีจีแอนด์อี) บริษัทสาธารณูปโภคใหญ่ที่สุดในแคลิฟอร์เนีย ประกาศเมื่อคืนวันเสาร์ (26) ว่า จะต้องตัดกระแสไฟฟ้าที่จ่ายให้ลูกค้าราว 940,000 รายใน 43 เทศมณฑลนาน 2 วันเพื่อลดความเสี่ยงไฟป่า
พีจีแอนด์อีถูกวิจารณ์อย่างหนักหลังพบว่า สายส่งไฟฟ้าของบริษัทอาจมีบทบาทที่ทำให้เกิดคินเคดไฟร์ เช่นเดียวกับตอนที่เกิดไฟป่าแคมป์ไฟร์ที่รุนแรงที่สุดในรัฐนี้และทำให้มีผู้เสียชีวิต 86 คนในปีที่ผ่านมา
บริษัทสาธารณูปโภคแห่งนี้ที่ยื่นขอล้มละลายเมื่อต้นปี ยังถูกกล่าวหาว่า เป็นสาเหตุของไฟป่าหลายครั้งในแคลิฟอร์เนียในช่วงหลายปีมานี้
ต้นสัปดาห์ที่แล้ว นิวซอมแสดงความไม่พอใจอย่างยิ่งที่แคลิฟอร์เนียซึ่งเป็นรัฐที่มีเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 5 ของอเมริกา ต้องประสบปัญหาไฟฟ้าดับยาวนาน โดยระบุว่า ความโลภและการบริหารผิดพลาดทำให้พีจีแอนด์อีไม่สามารถยกระดับโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรับมือความเสี่ยงจากไฟป่าที่รุนแรงขึ้นต่อเนื่องตลอดทศวรรษที่ผ่านมา