เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - วันนี้(7 มี.ค) ศรีลังกาออกคำสั่งบล็อกห้ามใช้เฟซบุ๊กและโซเชียลมีเดียทั่วประเทศ และปิดอินเตอร์เนตทั่วเมืองแคนดี (Kandy) แหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อ แต่ม็อบชาวพุทธสิงหลยังคงก่อเหตุวันนี้เข้าวันที่ 3 หลังเหตุรถแท็กซีขน 4 มุสลิมประสานงากับรถตู้คนขับชาวพุทธสิงหลเมื่อวันอาทิตย์(4) รัฐบาลโคลัมโบประกาศภาวะฉุกเฉินด่วนวันอังคาร(6)ควบคุมทั่วเกาะ รัฐบาลต่างชาติออกคำเตือน ยูเอ็นประณาม
เอเอฟพีรายงานวันนี้(7 มี.ค)ว่า การประท้วงของม็อบชาวพุทธในศรีลังกายังเกิดขึ้นเป็นวันที่ 3 ในวันพุธ(7) โคลัมโบออกคำสั่งส่งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารหลายร้อยนายเข้าเขตพื้นที่ภาคกลาง
แต่แม้ว่ากองกำลังทหารจะถูกส่งเข้ามาที่เมืองท่องเที่ยวหุบเขาชื่อดัง เมืองแคนดี(Kandy)เพื่อเสริมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทว่ากลุ่มม็อบชาวพุทธสิงหลซึ่งเป็นพลเมืองส่วนใหญ่ของประเทศยังคงต่อต้าน ไม่สนใจคำสั่งประกาศใช้เคอร์ฟิว และปิดสัญญาณอินเตอร์เนตภายในเมืองแห่งนี้
เอเอฟพีรายงานว่า คำสั่งการห้ามเดินทางออกนอกเคหาช่วงค่ำได้ถูกเลื่อนให้ใช้ออกไปจนถึงวันพฤหัสบดี(8)
นอกเหนือจากการปิดเฟซบุ๊ก และโซเชียลมีเดียทั่วประเทศแล้ว พบว่าโรงเรียนทั่วทั้งเมืองแคนดี ถูกสั่งปิดลงชั่วคราวเพื่อความปลอดภัยในวันนี้(7)
แหล่งข่าวตำรวจศรีลังกาเปิดเผยว่า ผู้กำกับด้านโทรคมนาคมศรีลังกาได้ออกคำสั่งให้บรรดาผู้ให้บริการอินเตอร์เนตในประเทศทำการปิดกั้นการเข้าถึงโซเชียลมีเดีย รวมไปถึงเฟซบุ๊ก เพื่อป้องกันไม่ให้ความรุนแรงลุกลาม
ซึ่งก่อนหน้าการประกาศภาวะฉุกเฉินของโคลัมโบเมื่อวานนี้(6)พบว่า มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นชาวพุทธสิงหลต้นเหตุการเกิดจลาจล และอีกรายเป็นชาวมุสลิมที่ถูกพบเป็นศพภายในบ้านพักที่ถูกไฟเผาเมื่อวันอังคาร(6)จากฝีมือของม็อบที่ไม่พอใจต่อการที่ชายชาวสิงหลซึ่งเป็นคนขับรถตู้ถูกชาวมุสลิม 4 คนในรถแท็กซี่ที่เกิดอุบัติเหตุใช้ท่อนเหล็กรุมทำร้ายจนเสียชีวิต
“นี่เป็นแค่มาตรการชั่วคราว และเราจะออกคำสั่งยกเลิกในเร็ววันนี้” เจ้าหน้าที่ระดับสูงศรีลังกาให้ความเห็นกับเอเอฟพี
และแหล่งข่าวที่เป็นชายรายนี้เปิดเผยว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระบุถึงข้อความต่อต้านมุสลิมที่ถูกแชร์บนเครือข่ายโซเชียลมีเดีย รวมไปถึงวิดีโอคลิปล่อแหลมที่ถูกโพสต์โดยพระศรีลังกาหัวรุนแรง ที่ออกมาเรียกร้องให้ใช้ความรุนแรงต่อกลุ่มชาวมุสลิม
อย่างไรก็ตาม สำหรับเมืองแคนดีนั้นพบว่าศรีลังกาได้ปิดการให้บริการอินเตอร์เนตทั้งหมดหลังจากค้นพบว่า บรรดากลุ่มผู้ประท้วงที่ก่อเหตุจลาจลใช้การติดต่อผ่านโซเชียลมีเดีย เป็นต้นว่า ว็อตแอพ เพื่อใช้ในการนัดหมายบุกทำลายทรัพย์สินชาวมุสลิม
“การเข้าโซเชียลมีเดียและโปรแกรมแชตที่เจาะจงนั้นจะถูกปิดซึ่งมีผลบังคับใช้ทันทีจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง” ไดอาล็อก(Dialog) ยักษ์ใหญ่ผู้ให้บริการสัญญาณโทรศัพท์มือถือศรีลังกากล่าวผ่านแถลงการณ์
เอเอฟพีชี้ว่า ซึ่งการตัดสัญญาณอินเตอร์เนตเกิดขึ้นโดยสิ้นเชิงในเมืองหุบเขาท่องเที่ยว เมืองแคนดีที่ตั้งห่างจากกรุงโคลัมโบออกไปทางตะวันออกราว 115 ก.ม ส่งผลกระทบต่อสื่อสารมวลชนศรีลังกาเป็นอย่างมากจากการต้องการภาพข่าว และภาพความเคลื่อนไหวมาจากพื้นที่
ด้านโฆษกรัฐบาลศรีลังกา ราจิธา เสนารัตเน(Rajitha Senaratne) ประกาศว่า บรรดาผู้ที่อยู่เบื้องหลังความที่ไม่สงบต้องถูกนำตัวมาลงโทษ
“นี่เป็นการก่อความรุนแรง” โฆษกรัฐบาลศรีลังกากล่าว และเสริมว่า “ทางเจ้าหน้าที่สามารถชี้ตัวผู้ต้องสงสัย 4 คน และคนทั้งหมดนั้นจะต้องถูกจับกุมในไม่ช้า”
นอกจากนี้ทางเสนารัตเนกล่าวต่อว่า ทางตำรวจได้ควบคุมตัวกลุ่มผู้ต้องสงสัยที่เชื่อว่าเป็นผู้เผยแพร่ข้อความปลุกปั่นยุยงก่อให้เกิดความเกลียดชังต่อชาวมุสลิมผ่านทางโซเชียลมีเดียแล้ว
พบว่าในช่วงข้ามคืนที่ผ่านมา มีตำรวจอย่างน้อย 3 นายได้รับบาดเจ็บที่ Menikhinna ย่านชานเมืองของเมืองแคนดี ที่ตกเป็นเป้าความไม่สงบแห่งใหม่ โฆษกตำรวจศรีลังกา รูวาน กูนาเซเครา(Ruwan Gunasekera) กล่าวให้ความเห็น
เอเอฟพีรายงานว่า บรรดารัฐบาลต่างชาติต่างออกประกาศเตือนพลเมืองของตนเองหลังจากที่เจ้าหน้าที่ศรีลังกาได้ส่งกำลังตำรวจและทหารทำการกวาดล้างจับกุมกลุ่มผู้ต้องสงสัย เป็นต้นว่า สหรัฐฯได้ออกประกาศเตือนไปยังพลเรือนของตัวเอง โดยชี้ว่า มีความเป็นไปได้ที่อาจจะเกิดความรุนแรงขึ้นอีกครั้ง พร้อมเตือนให้นักท่องเที่ยวอเมริกันในศรีลังกาให้ตรวจสอบข้อมูลข่าวสารสม่ำเสมอ
ด้านองค์การสหประชาชาติออกมาประณามถึงเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลศรีลังกาเร่งใช้มาตรการเพื่อนำความสงบและปกติสุขคืนพื้นที่เกิดเหตุ
เอเอฟพีชี้ว่า มีบ้านเรือน ไม่ต่ำกว่า 150 หลัง ร้านค้า และรถของชาวมุสลิมตกเป็นเหยื่อม็อบจุดไฟเผาในวันจันทร์(5) และวันอังคาร(6)
CNN รายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับความรุนแรงที่เกิดขึ้นในเวลานี้มาจากอุบัติเหตุรถชนที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 มี.ค ที่ผ่านมา หลังจากที่มีรถแท็กซีคันหนึ่งที่มีชาวมุสลิมอยู่ด้านใน 4 คนเกิดประสานงาเข้ากับรถตู้ที่ขับโดยชายสิงหลพุทธอายุน้อยรายหนึ่ง อ้างอิงจากตำรวจท้องถิ่น
และพบว่าชายชาวสิงหลนี้รายนี้ถูกทำชาวมุสลิมทั้ง 4 รุมร้ายด้วยท่อนเหล็ก และได้รับบาดเจ็บต้องนำส่งตัวโรงพยาบาล แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา ในขณะที่ผู้ก่อเหตุชาวมุสลิม 4 รายถูกตำรวจควบคุมตัว และในเวลานี้ยังคงอยู่ในการดูแลของทางเจ้าหน้าที่ สื่อสหรัฐฯชี้
เอเอฟพีรายงานเพิ่มเติมว่า ความรุนแรงลุกลามเมื่อพบว่า มีชายชาวมุสลิมถูกพบเป็นศพภายในบ้านที่ถูกเผาจนวอดในวันอังคาร(6) ทั้งนี้ชาวสิงหลที่นับถือศาสนาพุทธคิดเป็นสัดส่วน 75% ของประชากรทั้งหมด 21 ล้านคน ในขณะที่ชาวมุสลิมคิดเป็น 10%
อย่างไรก็ตามล่าสุด ยังไม่มีรายงานสรุปความเสียหายจากการทำลายเผาวางเพลิงของวันพุธ(7) ซึ่งในวันอังคาร(6) ก่อนหน้า รัฐสภาศรีลังกาออกแถลงการณ์ขออภัยในความรุนแรงที่เกิดขึ้นต่อชุมชนชาวมุสลิม