รอยเตอร์ - เจ้าหน้าที่ออสเตรเลียพบผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 รายจากไฟป่าในภาคตะวันออกซึ่งลุกลามเผาบ้านเรือนประชาชนไปแล้วไม่ต่ำกว่า 100 หลัง และยังมีผู้สูญหายไม่ทราบชะตากรรมอีก 7 คน
สำนักงานดับเพลิงชนบทแห่งรัฐนิวเซาท์เวลส์ (NSW RFS) ยืนยันตัวเลขผู้เสียชีวิต 2 รายจากไฟป่าใกล้ๆ เมืองเกล็นอินเนส (Glen Innes) ซึ่งอยู่ห่างจากซิดนีย์ไปทางเหนือราว 550 กิโลเมตร โดยรายแรกถูกพบเสียชีวิตอยู่ภายในรถยนต์ ส่วนรายที่สองเป็นหญิงซึ่งถูกไฟลวกจนบาดเจ็บสาหัสก่อนจะสิ้นใจเมื่อวานนี้ (8)
เกลดีส์ เบเรจิกเลียน นายกรัฐมนตรีแห่งรัฐนิวเซาท์เวลส์ ให้สัมภาษณ์ในวันนี้ (9) ว่า ยังคงมีผู้สูญหายอีกอย่างน้อย 7 คน พร้อมแสดงความเสียใจที่ตัวเลขดังกล่าว “อาจเพิ่มขึ้น”
ออสเตรเลียกำลังเผชิญฤดูไฟป่าที่รุนแรงที่สุดครั้งหนึ่ง และหลายภูมิภาคก็ประสบภัยแล้งอย่างหนัก
เชน ฟิตซ์ซิมมอนส์ ผู้บัญชาการ NSW RFS ชี้ว่าสถานการณ์ไฟป่ามีแนวโน้มที่จะเลวร้ายเช่นนี้ไปจนถึงสัปดาห์หน้า หรืออาจจะตลอดช่วงฤดูร้อนซึ่งกินระยะเวลาตั้งแต่เดือน .ค. ไปจนถึง ก.พ. เนื่องจากอุณหภูมิที่พุ่งสูงผิดปกติ อีกทั้งปริมาณน้ำฝนก็ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย
ทางการรัฐนิวเซาท์เวลส์ได้ประกาศให้ไฟป่า17 จุดเป็น “ภาวะฉุกเฉิน” เมื่อวานนี้ (8) เนื่องจากกระแสลมแรงและสภาพอากาศที่แห้งแล้งเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เพลิงลุกลามขยายวงกว้างอย่างรวดเร็ว และจนถึงเช้าวันนี้ (9) เกิดไฟป่าแล้วไม่ต่ำกว่า 70 จุดทั่วทั้งรัฐ
ขณะเดียวกัน ชาวบ้านหลายพันคนในเมืองนูซา (Noosa) บนชายฝั่งซันไชน์โคสต์ของรัฐควีนส์แลนด์ก็ต้องอพยพหนีไฟป่าไปอยู่ตามศูนย์พักพิงต่างๆ โดย อนาสตาเซีย พาลัสเซ็ค นายกรัฐมนตรีรัฐควีนส์แลนด์ ระบุว่ากำลังประเมินสถานการณ์ว่าจะอนุญาตให้พลเมืองเกือบ 2,000 คนกลับบ้านได้หรือไม่
“ไฟป่าอาจเปลี่ยนทิศทางได้เร็วมาก เวลาสภาพอากาศแห้งจัดและคาดว่าจะมีลมแรงในช่วงบ่ายวันนี้ “ พาลัสเซ็ค เผยต่อสื่อมวลชน
ด้านนายกรัฐมนตรี สก็อตต์ มอร์ริสัน แห่งออสเตรเลียได้ทวีตข้อความว่า วิกฤตไฟป่าครั้งนี้ “น่าหวั่นเกรง” พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลกลางจะให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนอย่างเต็มที่