ลืมเสียเถอะ ไม่ว่าจะเป็นหุ้น, อสังหาริมทรัพย์, หรือกระทั่งคริปโตเคอเรนซีส์ เพราะแท้ที่จริงแล้วการลงทุนสุดฮอตในประเทศจีนเวลานี้ น่าจะเป็นรองเท้าบาสเกตบอล “ไนกี้”, “อาดิดาส” และ “พูม่า” ซึ่ง สนีกเกอร์เฮดส์ (sneakerheads พวกที่รักชอบและสะสมรองเท้าผ้าใบเป็นชีวิตจิตใจ) อย่าง หู ฮว่ายหยวน พร้อมลงแรงต่อสู้เพื่อให้ได้มาไว้ในกำมือ
รองเท้าผ้าใบรุ่นราคาสูงลิ่ว ที่บ่อยครั้งผลิตออกมาเพียงจำนวนจำกัดแบบลิมิเต็ดเอดิชัน โดยเป็นความร่วมมือกันระหว่างบริษัทบิ๊กเนมในแวดวงสปอร์ตแวร์ กับสำนักแฟชั่น, แรปเปอร์, หรือนักกีฬาคนดัง เวลานี้มีราคาสูงจนเป็นฟองสบู่ที่พองโตขึ้นทุกที สืบเนื่องจากพวกสาวกผู้นิยมชมชอบสนีกเกอร์ในทั่วโลกก็จริงอยู่
ทว่าในประเทศจีนนั้น ความหลงใหลพุ่งปริ๊ดไปไกลถึงขั้นเป็นความคลั่งไคล้ โดยเหล่าสาวกผู้อุทิศตัวต่างกำลังขับดันปริมาณการซื้อขายบนแพลตฟอร์ต “แลกเปลี่ยนรองเท้าผ้าใบออนไลน์” ซึ่งมีกันหลายเจ้า จนพากันทะยานลิบลิ่ว
กระทั่งทางเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบของแดนมังกร ต้องออกคำเตือนให้ระวังอันตรายจากการเก็งกำไร เนื่องจากผลกำไรจากการนำเอาสนีกเกอร์รุ่นยอดนิยมไปขายต่อนั้น กำลังอยู่ในระดับเฉียดๆ 5,000% ทีเดียว
“ตลาดสนีกเกอร์ไม่ได้เป็นแค่เกมเฉพาะของพวกผู้คนที่นิยมชมชื่นอีกต่อไปแล้ว เวลานี้พวกนักเก็งกำไรต่างวิ่งเข้ามาในธุรกิจนี้ยุบยับไปหมด” ผู้สันทัดกรณีอย่าง หู บอก ตัวเขาเองก็เพิ่งเดินทางไกลเป็นระยะทาง 300 กิโลเมตรมาถึงเมืองเซี่ยงไฮ้ เพื่อคว้าโอกาสที่จะซื้อหารองเท้า ไนกี้ แอร์ จอร์แดน รุ่นล่าสุด
และหนุ่มวัย 23 ปีผู้นี้ก็รู้สึกว่าการเดินทางเที่ยวนี้ของตนนั้นคุ้มค่า
หลังจากชนะในการเล่นลอตเตอรี่ออนไลน์เพื่อช่วงชิงให้ได้สิทธิ ที่จะได้เข้าไปยังร้านไนกี้แห่งหนึ่งในเซี่ยงไฮ้ พร้อมๆ คนอื่นๆ อีกราว 400 คนซึ่งต่างมุ่งหวังที่จะได้รองเท้ารุ่นพิเศษอยู่เช่นกัน หูยังประสบความสำเร็จอีกชั้นหนึ่งในการได้สิทธิที่จะวางเงิน 1,299 หยวน (ราว 5,600 บาท) เพื่อซื้อสนีกเกอร์ลิมิเต็ดนี้มา 1 คู่
เขาวางแผนการจะเปลี่ยนให้มันกลายเป็นเงินจำนวนสองเท่าตัวของที่เขาจ่ายไป บนตลาดขายต่อทางออนไลน์ที่กำลังคึกคัก
“ถ้าผมไม่ได้โชคดีเอามากๆ ในวันนี้ มันก็เป็นไปได้ที่ผมคงจะจ่ายไม่ไหวหรอก ถ้าหากจะต้องซื้อมันในตลาดขายต่อ” หู กล่าว
การที่แดนมังกรเกิดกระแสคลั่งไคล้กันขนาดนี้ เห็นกันว่าปัจจัยสำคัญๆ เลยมีอยู่ 2 ประการ
ประการแรก ดาวดังของบาสเกตบอลเอ็นบีเอ อย่างเช่น ไมเคิล จอร์แดน นั้น ได้กลายเป็นไอดอลมาเป็นแรมปีแล้วในประเทศจีน โดยที่อาจกล่าวได้ว่าบาสเกตบอลเป็นกีฬาที่มีผู้ติดตามสูงที่สุดในจีน และวัฒนธรรมการแต่งกายเดินถนนด้วยเสื้อผ้ารองเท้าแบบไอดอลเหล่านี้ ก็ก่อให้เกิดตลาดขนาดมหึมาที่กำลังขยายตัวออกไปเรื่อยๆ
ส่วนปัจจัยอีกประการหนึ่ง ได้แก่การที่พวกเจ้าหน้าที่รับผิดชอบของจีนกำลังจำกัดความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นแต่ละตัวในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อพยายามสกัดกั้นความวูบวาบขึ้นลงรวดเร็วของราคา สนีกเกอร์จึงได้รับการต้อนรับจากเหล่านักลงทุนรุ่นหนุ่มสาว ซึ่งกำลังหาทางทำกำไรให้ได้อย่างรวดเร็ว จากสินค้าโภคภัณฑ์ที่พวกเขารู้จักและสามารถต่อเชื่อมโยงใยได้
คำเตือนให้ระวังการเก็งกำไรจนเลยเถิด
“ถ้าการขายรองเท้าผ้าใบที่ราคาสูงเกินเลยไปมาก เป็นสิ่งซึ่งพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าสามารถทำเงินได้เยอะขนาดนี้ แล้วทำไมไม่เอามันเป็นแหล่งหารายได้ชั้นดีเสียเลยล่ะ” หู บอก
ผู้ที่คิดคล้ายๆ เขานั้นมีเป็นจำนวนมากอย่างแน่นอน จนกระทั่งกลายเป็นตัวกระตุ้นให้แพลตฟอร์มซื้อขายสนีกเกอร์ทางออนไลน์ของจีนเติบโตกันอย่างรวดเร็วยิ่ง เป็นต้นว่า Poizon ซึ่งปริมาณการซื้อขายในรอบปีอยู่ที่ราวๆ 15,000 ล้านหยวนทีเดียว ทั้งนี้ตามตัวเลขของบริษัทที่ปรึกษาด้านเทค iiMedia Research
ยอดขนาดนี้ถือว่ามากกว่า 3 เท่าตัวของปริมาณการซื้อขายของ StockX แพลตฟอร์มตลาดออนไลน์ชั้นนำของสหรัฐฯ ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องสนีกเกอร์
แพลตฟอร์มอย่าง Poizon และ Nice ยังสามารถดึงดูดเงินลงทุนจำนวนหลายร้อยล้านดอลลาร์จากพวกกิจการเวนเจอร์แคปิตอล ทั้งที่เป็นของต่างประเทศและที่เป็นของภายในจีนเอง ทั้งนี้ตามรายงานต่างๆ ของสื่อแดนมังกร
พวกตลาดซื้อขายออนไลน์ระดับโลกก็กำลังให้ความสนใจปรากฏการณ์นี้ GOAT ที่เป็นคู่แข่งของ StockX ได้เปิดตัวโปรแกรมมินิคล้ายๆ แอปป์ บนแพลตฟอร์ตรับส่งข้อความชั้นนำของจีนอย่าง “WeChat” ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ส่วนพวกผู้บริหารของ StockX ระบุว่ากำลังจัดทำแผนการสำหรับบุกตลาดจีนอยู่เหมือนกัน
ในอีกด้านหนึ่ง สาขาในเซี่ยงไฮ้ของธนาคารประชาชนแห่งประเทศจีน (People's Bank of China) หรือก็คือแบงก์ชาติจีน ได้ออกคำเตือนฉบับหนึ่งเมื่อเดือนที่แล้ว เกี่ยวกับความเสี่ยงทางการเงินจากการเก็งกำไรสนีกเกอร์กันจนเกินเลย ขณะเดียวกันพวกสื่อที่อยู่ในความควบคุมของรัฐต่างพากันวาดภาพปรากฏการณ์นี้ไปในทางลบ
กระนั้น มันก็แทบไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อผู้คนอย่างเช่น หลิว ซิงเฟิง นักศึกษาจีนวัย 23 ปีซึ่งเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในออสเตรเลีย เขาสะสมรองเท้าผ้าใดเป็นงานอดิเรกมาเป็นแรมปีแล้ว ก่อนจะกระโจนเข้าสู่วงการนี้โดยถือเป็นการทำธุรกิจในปีนี้
เวลานี้เขามีเครือข่ายหลวมๆ ที่ติดต่อเชื่อมโยงกับผู้คนในสหรัฐฯและญี่ปุ่น ผู้ซึ่งถ้าเขาจ่ายค่าธรรมเนียมให้ ก็จะสมัครเข้าเล่นลอตเตอรี่ออนไลน์เพื่อชิงสิทธิซื้อสนีกเกอร์รุ่นออกใหม่ๆ ในชื่อของเขา หรือไปเข้าแถวรอซื้อที่ร้านต่างๆ
หลิวมุ่งโฟกัสเฉพาะพวกโมเดลซึ่งเป็นที่ต้องการเป็นที่ตามหากันมากที่สุด อย่างเช่น แอร์ จอร์แดน และ อาดิดาส ยีซี่ ซึ่งเกิดจากการจับมือกันระหว่างอาดิดาสกับ คานเย เวสต์ แรปเปอร์อเมริกันชื่อก้อง โดยที่เขาประมาณการว่าเขาสามารถทำกำไรสุทธิได้เดือนละ 50,000 หยวน
“ความคลั่งไคล้ของตลาดสนีกเกอร์ให้ประโยชน์แก่ผมมากเหลือเกิน” หลิว กล่าว
แต่ในทางเป็นจริงแล้ว เขาหลีกเลี่ยงไม่ยุ่งกับตลาดจีน สืบเนื่องจากมีการแข่งขันที่ดุเดือดเหลือเกิน
“ในจีนนั้นมีแต่คนกำลังเข้าคิวมากมายเกินไปแล้ว แต่รองเท้ากลับมีไม่พอ”
ของจำเป็นในชีวิตประจำวัน
ตามตัวเลขของ iiMedia research ซึ่งทำงานด้านดาต้าไมนิ่งด้วย มูลค่าของตลาดขายต่อสนีกเกอร์ของจีน ทะยานผ่านหลัก 1,000 ล้านดอลลาร์แล้วในปีนี้ และกลายเป็น 1 ใน 6 ส่วนประกอบที่เติบโตรวดเร็วที่สุดของตลาดทั่วโลกซึ่งมีมูลค่ารวม 6,000 ล้านดอลลาร์ นำโดยสหรัฐฯ
ในจีนนั้น “ตลาดหุ้นมีความเสี่ยง ส่วนตลาดอสังหาฯก็เต็มไปด้วยฟองสบู่ ดังนั้นพวกนักลงทุนจึงกำลังหันมาเก็งกำไรกันในภาคสินค้าผู้บริโภค” จาง อี้ หัวหน้านักวิเคราะห์ของ iiMedia Research ให้ความเห็น
ปริมาณการซื้อขายยังคงเติบโตได้ ถึงแม้เกิดกรณีจีนแสดงปฏิกิริยาไม่พอใจเอ็นบีเอเมื่อเดือนที่แล้ว โดยมีชนวนเหตุมาจากผู้บริหารของทีมฮุสตันร็อกเกตส์รายหนึ่งทวิตข้อความสนับสนุนพวกผู้ประท้วงในฮ่องกง
ด้วยความหวาดกลัวว่ารัฐบาลอาจจะเข้ามาแทรกแซง จึงบังคับให้พวกแฟลตฟอร์มซึ่งใช้แอปป์เป็นหลัก อย่างเช่น Poizon และ Nice พากันดำเนินการต่างๆ เพื่อลดกระแสการเก็งกำไรอย่างเลยเถิด
ทั้งสองรายนี้ยังกำลังว่าจ้าง “สนีกเกอร์เฮดส์” ให้คอยตรวจสอบรองเท้าซึ่งซื้อขายแลกเปลี่ยนกันอยู่ในแพลตฟอร์มของพวกเขา เพื่อกำจัดพวกของปลอม
ซุน ฉี รองประธานของ Nice บอกกับเอเอฟพีอย่างภูมิใจว่า สนีกเกอร์ซึ่งซื้อขายผ่าน Nice เพียงแค่ 0.01% เท่านั้นที่พบว่าเป็นของเก๊
อย่างไรก็ดี การที่วัฒนธรรมสนีกเกอร์กำลังถูกทำให้กลายเป็นกระบวนการมุ่งหากำไรจากสินค้าเช่นนี้ ใช่ว่าจะเป็นสิ่งที่ทุกๆ คนพึงพอใจ
หวัง เย่ วัย 21 ปี มองตนเองว่าเป็นนักนิยมสนีกเกอร์ขนานแท้ และใครก็ตามทีซึ่งไปดูที่แฟลตของเขาในเซี่ยงไฮ้ ก็จะต้องยอมรับรองว่าเป็นเช่นนั้นจริงๆ
ภายในห้องพักพื้นที่แคบๆ แห่งนั้นอัดแน่นด้วยกล่องรองเท้าผ้าใบวางซ้อนกันจนถึงเพดาน รวมแล้วมากกว่า 200 คู่ โดยที่ตัวเขาเองประมาณการว่ามีมูลค่ารวมกันหลายแสนหยวน
สำหรับ หวัง ซึ่งเป็นผู้ที่หลงใหลกีฬาบาสเกตบอล รองเท้าผ้าใบคือ “ของจำเป็นในชีวิตประจำวัน” และตัวเขาเองก็ให้ความใส่ใจกับสมบัติสนีกเกอร์ของเขาเป็นอย่างยิ่ง เป็นต้นว่า การคอยดูดอากาศออกจากถุงบรรจุรองเท้าเพื่อรักษาให้มันอยู่ในสภาพเดิมนานๆ ซึ่งก็เป็นวิธีการหนึ่งของการสร้างผนึกสุญญากาศแบบดีไอวาย
ราคาที่พุ่งลิบลิ่วขึ้นเรื่อยๆ ในทุกวันนี้ จึงเป็นเรื่องที่สร้างความไม่พอใจ
“ผมไม่ชอบเลยจริงๆ ที่ตอนนี้ผมจะต้องจ่ายแพงขึ้นสำหรับรองเท้าบาสเกตบอลธรรมดาๆ คู่นึง” เขาบอก