รอยเตอร์ - การรวมตัวของผู้ประท้วงฝักใฝ่ประชาธิปไตยฮ่องกงในช่วงค่ำวันศุกร์(8พ.ย.) เพื่อจุดเทียนไว้อาลัยแก่นักศึกษาคนหนึ่งซึ่งหล่นจากลิฟต์ลานจอดรถเสียชีวิตในตอนเช้าของวันเดียวกัน ลุกลามขยายวงสู่ความรุนแรงอย่างรวดเร็ว ทั้งจุดไฟเผาบนถนน, ยิงแก๊สน้ำตา เช่นเดียวกับเหตุปะทะระหว่างผู้ชุมนุมกับตำรวจ
แก่นกลางของสถานการณ์ความรุนแรงหนล่าสุดอยู่ที่ถนนนาธาน ย่านมงก๊กฝั่งเกาลูน หนึ่งในย่านที่มีประชากรพักอาศัยหนาแน่นที่สุดในโลก หลังจากพวกนักเคลื่อนไหวสร้างแนวกั้นถนนและทุบทำลายทางเข้าสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน
ตำรวจต้องใช้หุ่นยนต์ระเบิดทำลายวัตถุชิ้นหนึ่งซึ่งต้องสงสัยเป็นวัตถุระเบิดริมถนนสายหนึ่ง หลังจากเกิดระเบิดในพื้นที่อย่างน้อย 3 ครั้ง ท่ามกลางเหตุเผชิญหน้ากันนานหลายชั่วโมงระหว่างเจ้าหน้าที่กับพวกผู้ประท้วงที่ขว้างปาระเบิดเพลิง
รายงานข่าวระบุว่าตำรวจต้องใช้แก๊สน้ำตากับพวกผู้ชุมนุมในบริเวณดังกล่าว รวมถึงที่เขตเจิ้งกวนโอ ทางตะวันออกของแหลมเกาลูน จุดที่ โจว ซี-หลก (Chow Tsz-lok) นักศึกษาตกจากชั้น 3 ลงสู่ชั้น 2 ของอาคารจอดรถแห่งหนึ่งในตอนเช้าวันศุกร์(8พ.ย.)
โจว นักศึกษาของมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(UST) พลัดตกลงมาตอนที่ตำรวจกำลังเข้าสลายการชุมนุมของผู้ประท้วง ขณะที่การตายของเขาดูท่าจะโหมกระพือความโกรธที่มีต่อตำรวจ หลังจากก่อนหน้านี้เหล่าเจ้าหน้าที่ก็ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันอยู่ก่อนแล้วต่อคำกล่าวหาใช้กำลังเกินกว่าเหตุในวิกฤตการเมืองครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบหลายทศวรรษของอดีตอาณานิคมอังกฤษแห่งนี้
นักศึกษาหลายร้อยคน ส่วนใหญ่สวมหน้ากากและจุดเทียน ยืนเรียงแถวสงบนิ่งที่มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ก่อนวางดอกไม้สีขาวเพื่อระลึกถึง โจว นอกจากนี้แล้วดอกไม้หลายร้อยดอกยังถูกนำไปวางไว้ยังจุดที่เขาพลัดตกจากลานจอดรถด้วย
ส่วนที่ย่านช็อปปิ้งคอสเวย์เบย์ มีผู้ประท้วงหลายร้อยคนต่อแถวยืนสงบนิ่งบนท้องถนน อย่างไรก็ตามบรรยากาศไปเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เมื่อผู้คนเริ่มตะโกนด่าทอตำรวจชุดดำ ซึ่งเป็นตัวแทนของความเหี้ยมโหด และปิดกั้นถนนในคอสเวย์เบย์
ในย่านมงก๊ก พวกนักเคลื่อนไหวหลายสิบคนสร้างแนวกั้นถนนนาธาน และทุบทำลายทางเข้าสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน ขว้างปาอิฐเข้าไปภายในและราดน้ำมันใส่ตะแกรงเหล็ก และทำลายตู้โทรศัพท์ตู้หนึ่งด้วยระเบิดขนาดเล็ก นอกจากนี้แล้วยังมีเหตุปะทะและจุดไฟเผาที่ย่านซาถิ่นในเขตนิวเทอริทอรี่ส์ด้วย
พวกนักศึกษาและคนหนุ่มสาวเป็นแถวหน้าของผู้ชุมนุมหลายแสนคนที่ไหลบ่าลงสู่ท้องถนนสายต่างๆนับตั้งแต่เดือนมิถุายนเป็นต้นไป เพื่อเรียกร้องความเป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับข้อเรียกร้องอื่นๆ รวมเดินขบวนต่อต้านสิ่งพวกเขามองว่าเป็นการแทรกแซงจากจีน
ฮ่องกงคืนสู่การปกครองของจีนภายใต้สูตร "1 ประเทศ 2 ระบบ" ในปี 1997 อนุญาตให้มีสิทธิเสรีภาพแบบที่ผู้คนบนแผ่นดินใหญ่ไม่ได้รับ ในนั้นรวมถึงความเป็นอิสระด้านกระบวนการยุติธรรมและสิทธิในการชุนุม
การประท้วงมีต้นตอจากความพยายามผลักดันผ่านร่างกฎหมายฉบับหนึ่งซึ่งเปิดทางให้ส่งตัวผู้ต้องสงสัยไปดำเนินคดีในจีนแผ่นดินใหญ่ และแม้ร่างกฎหมายฉบับนี้ถูกถอนออกไปแล้ว แต่การประท้วงได้ยกระดับสู่การเรียกร้องประชาธิปไตย ถือเป็นความท้าทายใหญ่หลวงที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ต้องเผชิญ นับตั้งแต่ที่เขาก้าวเข้าสู่อำนาจในปี 2012
จีนปฏิเสธว่าไม่ได้แทรกแซงฮ่องกงและกล่าวโทษเหล่าประเทศตะวันตกว่าปลุกปั่นสถานการณ์ความรุนแรง ด้วยนับตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นมา พวกผู้ประท้วงหันไปใช้ความรุนแรง ด้วยการขว้างปาระเบิดเพลิงและทุบทำลายทรัพย์สินของธนาคารต่างๆ, ห้างร้านและสถานีรถไฟใต้ดิน ส่วนหนึ่งของการชุมนุม กระตุ้นให้ตำรวจยิงกระสุนยาง,แก๊สน้ำตา, ฉีดน้ำใต้และในบางกรณีก็ยิงกระสุนจริงตอบโต้
ทางมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เรียกร้องให้มีการสืบสวนอย่างเป็นอิสระต่อเหตุเสียชีวิตของโจว โดยพวกเขาอ้างว่ารถตำรวจจอดขวางทางรถฉุกเฉิน ทำให้เจ้าหน้าที่หน่วยฉุกเฉินต้องเดินไปยังจุดเกิดเหตุ จนความช่วยเหลือต้องล่าช้าไปกว่า 20 นาที
รัฐบาลฮ่องกงแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง และทางโฆษกตำรวจบอกว่าพวกเจ้าหน้าที่จะค้นหาความจริงโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และเรียกร้องประชาชนอยู่ในความสงบและใช้เหตุผล พร้อมกับปฏิเสธว่าตำรวจไม่ได้ขวางทางรถฉุกเฉิน
