ที่ปรึกษาของทรัมป์เผยสหรัฐฯอาจเลื่อนรีดภาษีจีน จากเดิมกำหนดไว้ในเดือนธ.ค.

เอเอฟพี - ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯอาจเลื่อนมาตรการรีดภาษีเล่นงานสินค้านำเข้าจากจีนที่มีกำหนดบังคับใช้ในเดือนธันวาคม จากการเปิดเผยของที่ปรึกษาทำเนียบขาวด้านการค้าในวันศุกร์(8พ.ย.)

อย่างไรก็ตามเขาปฏิเสธรายงานข่าวที่ระบุว่าสหรัฐฯจะทยอยถอนมาตรการรีดภาษีสินค้านำเข้าจากจีนที่กำหนดเล่นงานไปแล้วก่อนหน้านี้ ส่วนหนึ่งในข้อตกลงยุติความขัดแย้งทางการค้าที่ยืดเยื้อมานาน ฉุดเศรษฐกิจโลกชะลอตัว

นักลงทุนทั่วโลกส่งเสียงยินดีปรีดาหลังสำนักข่าวหลายแห่งอ้างหล่งข่าวในวอชิงตันและปักกิ่ง ระบุว่ามาตรการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าที่บังคับใช้ไปก่อนหน้านี้อาจค่อยๆถูกถอนเก็บเข้าลิ้นชักในสัดส่วนที่เท่าเทียมกัน

อย่างไรก็ตามที่ปรึกษาด้านการค้าสายแข็งกร้าว ดูเหมือนจะแสดงความคลางแคลงใจต่อสัญญาณความคืบหน้าของการเจรจา "สิ่งที่อยู่บนโต๊ะเจรจาก็คือมาตรการรีดภาษีที่กำลังมาถึงในเดือนธันวาคม วันที่ 15 ธันวาคม" ปีเตอร์ นาวาร์โร กล่าว

"ผมคิดว่าเรามีความตั้งใจ มันขึ้นอยู่กับประธานาธิบดี ในการเลื่อนภาษีเหล่านั้น" เขาระบุ "แต่ไม่มีการถอนมาตรการรีดภาษีที่บังคับใช้ในปัจจุบัน มีความเห็นแย้งกัน"

ก่อนหน้านี้ นาวาร์โรให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวฟ็อกซ์บิสเนสในช่วงค่ำวันพฤหัสบดี(7พ.ย.) ว่า "ณ ตอนนี้ยังไม่มีการตกลงกันใดๆทั้งนั้น ว่าถอนมาตรการรีดภาษีที่บังคับใช้อยู่ในปัจจุบัน จะเป็นเงื่อนไขของข้อตกลงการค้าเฟส1"

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่รัฐบาลของประธานาธิบดีทรัมป์คนอื่นๆมีมุมมองแง่บวกมากกว่านาวาร์โร เกี่ยวกับแนวโน้มของข้อตกลงทางการค้า แต่ก็ไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆเพิ่มเติม ในนั้นรวมถึง แลร์รี คุดโลว์ ที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจทำเนียบขาว ที่ยืนยันความคืบหน้าของการเจรจา โดยถ้าทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงการค้้าเฟส 1 "ก็จะมีการตกลงและประนีประนอมด้านมาตรการรีดภาษี"

ส่วน สเตฟานี กริสแฮม โฆษกทำเนียบขาวกล่าวเสริมว่า "เรามมองในแง่ดีมากๆ ว่าเราจะบรรลุข้อตกลงกันในเร็ววันนี้"

สหรัฐฯและจีนกำหนดมาตรการรีดภาษีตอบโต้กันไปมาหลายแสนล้านดอลลาร์ในการค้าแบบสองทาง โดยมาตรการรีดภาษีรอบใหม่ที่สหรัฐฯจะเรียกเก็บกับสินค้านำเข้าจากจีนมีกำหนดบังคับใช้ในวันที่ 15 ธันวาคม คิดเป็นมูลค่า 160,000 ล้านดอลลาร์

เมื่อวันพฤหัสบดี(7พ.ย.) เกา เฝิง โฆษกกระทรวงพาณิชย์ของจีน ระบุว่า การยกเลิกมาตรการรีดภาษีคือเงื่อนไขที่สำคัญสำหรับข้อตกลงใดๆ พร้อมระบุว่า ทั้งสองฝ่ายต้องพร้อมใจกันยกเลิกมาตรการรีดภาษีบางอย่างที่กำหนดเล่นงานสินค้าของอีกฝ่าย เพื่อบรรลุข้อตกลงการค้าเฟส 1 “สงครามการค้าเริ่มต้นด้วยการรีดภาษี และมันควรจบด้วยการยกเลิกรีดภาษี”

นอกจากนี้แล้ว เกา เฝิง บอกต่อว่า การยกเลิกรีดภาษีต้องมีสัดส่วนที่เท่ากันระหว่างสองฝ่ายเพื่อบรรลุข้อตกลงการค้า “เฟส 1” แต่ปริมาณของการยกเลิกนั้นสามารถเจรจากันได้ “ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา หัวหน้าคณะเจรจาจากทั้งสองประเทศมีการหารืออย่างจริงจังและสร้างสรรค์เพื่อหาทางคลี่คลายประเด็นต่างๆ ที่เป็นแก่นกลางของความกังวลอย่างเหมาะสม” เขากล่าว “ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องยกเลิกรีดภาษีเพิ่มเติมในเฟสต่างๆ ในขณะที่ทั้งสองฝ่ายมีความคืบหน้าในการเจรจา”