รอยเตอร์ - ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯในวันศุกร์(8พ.ย.) เผยว่าเขาไม่ได้ตกลงถอนมาตการรีดภาษีของอเมริกาที่กำหนดเล่นงานสินค้านำเข้าจากจีนตามความต้องการของปักกิ่ง กระพือข้อสงสัยรอบใหม่ว่าเมื่อไหร่สองชาติเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่ของโลกจะยุติข้อพิพาททางการค้าระหว่างกัน
เมื่อวันพฤหัสบดี(7พ.ย.) บรรดาเจ้าหน้าที่จากสองประเทศ เปิดเผยว่าจีนและสหรัฐฯเห็นพ้องค่อยๆถอนมาตรการรีดภาษีสินค้านำเข้าที่กำหนดงานอีกฝ่าย ส่วนหนึ่งใน "เฟส1" ของข้อตกลงการค้า อย่างไรก็ตามแนวคิดดังกล่าวกลับถูกต่อต้านอย่างดุเดือดจากเหล่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงภายในรัฐบาลประธานาธิบดีทรัมป์
ความแตกแยกดังกล่าวแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนในวันศุกร์(8พ.ย.) เมื่อทรัมป์บอกกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาว ว่าเขาไม่ได้ตกลงลดระดับมาตรการรีดภาษีที่กำหนดเล่นงานจีนไปก่อนหน้านี้ "จีนหวังว่าจะได้รับการถอนมาตรการรีดภาษีบางอย่าง ไม่ใช่การถอนทั้งหมด แน่นอน พวกเขารู้ว่าผมจะไม่ทำแบบนั้น ผมไม่ได้ตอบตกลงอะไรไปเลย"
ทรัมป์อ้างว่าจีนอยากทำข้อตกลงมากกว่าเขาเสียอีก พร้อมระบุว่ามาตรการรีดภาษีของสหรัฐฯได้ก่อเงินทุนแก่อเมริกาหลายพันล้านดอลลาร์ "ตอนนี้ผมมีความสุขมาก เรากำลังมีเงินไหลเข้ามาหลายพันล้านดอลลาร์"
ประธานาธิบดีทรัมป์บอกด้วยว่าข้อตกลงการค้ากับจีน หากเสร็จสมบูรณ์ จะมีการลงนามกันในสหรัฐฯ "สมมุติว่าเราได้ข้อตกลง มันอาจเป็นที่ไอโอวาหรือเมืองไร่แบบเดียวกันที่ไหนสักแห่ง มันจะเกิดขึ้นในประเทศของเรา"
รัฐเกษตรกรรม "ไอโอวา" เป็นดินแดนที่ได้รับผลกระทบรุนแรงจากสงครามการค้า และอดีตเคยต้อนรับการมาเยือนของประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนมาแล้ว
พวกผู้เชี่ยวชาญจากทั้งวงนอกและวงในรัฐบาลสหรัฐฯ เตือนว่าข้อตกลงการค้า "เฟส1" ยังอาจพังครืนลงได้ หลังจากก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่สหรัฐฯเคยยอมรับว่ายังมีงานให้ทำอีกมากกว่าที่มันจะแล้วเสร็จ เมื่อครั้งที่ทรัมป์แถลงเกี่ยวกับกรอบข้อตกลงชั่วคราวดังกล่าวในเดือนก่อน และนับตั้งแต่นั้นปักกิ่งได้ตีกลับข้อเรียกร้องของสหรัฐฯ ที่ต้องการให้จีนซื้อสินค้าด้านการเกษตรมากขึ้น เช่นเดียวกับประเด็นอื่นๆ
ทรัมป์ใช้มาตรการรีดภาษีสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์ เป็นอาวุธในการทำสงครามการค้าระหว่างสองชาติเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่ที่สุดของโลก แต่แนวโน้มความเป็นไปได้ที่จะละทิ้งมัน แม้จะดำเนินการอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ได้เรียกเสียงคัดค้านอย่างดุเดือดจากที่ปรึกษาของเขาหลายคนทั้งในและนอกทำเนียบขาว หรือแม้แต่ทีมหาเสียงของเขาเอง
เบื้องต้นข้อตกลงการค้าชั่วคราวได้รับคาดหมายอย่างกว้างขวางว่าจะประกอบด้วยคำสัญญาของสหรัฐฯว่าจะละทิ้งแผนรีดภาษีสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 156,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งกำหนดบังคับใช้ในวันที่ 15 ธันวาคม ในนั้นรวมถึงโทรศัพท์มือถือ, แล็ปท็อป คอมพิวเตอร์และของเล่น
อย่างไรก็ตามคณะผู้แทนเจรจาของจีนต้องการให้สหรัฐฯยกเลิกมาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีน 15% มูลค่า 125,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งมีผลบังคับใช้ไปเมื่อวันที่ 1 กันยายน นอกจากนี้ ปักกิ่งยังหวังปลดเปลื้องภาระภาษี 25% ที่สหรัฐฯกำหนดเล่นงานก่อนหน้านั้น ต่อสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 250,000 ล้านดอลลาร์ ไล่ตั้งแต่เครื่องจักร, เซมิคอนดัคเตอร์ ไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์
เกา เฝิง โฆษกกระทรวงพาณิชย์ของจีน ระบุว่า การยกเลิกมาตรการรีดภาษีคือเงื่อนไขที่สำคัญสำหรับข้อตกลงใดๆ พร้อมระบุว่า ทั้งสองฝ่ายต้องพร้อมใจกันยกเลิกมาตรการรีดภาษีบางอย่างที่กำหนดเล่นงานสินค้าของอีกฝ่าย เพื่อบรรลุข้อตกลงการค้าเฟส 1 “สงครามการค้าเริ่มต้นด้วยการรีดภาษี และมันควรจบด้วยการยกเลิกรีดภาษี”