เอเอฟพี - บริษัทสื่อสารใหญ่ 3 แห่งของจีนพร้อมใจเปิดตัวเทคโนโลยีไร้สาย 5 จี ในวันพฤหัสฯ (31 ต.ค.) ขณะที่แดนมังกรกำลังเร่งอุดช่องว่างด้านเทคโนโลยีที่ยังเป็นรองอเมริกา ท่ามกลางสงครามการค้าสองชาติมหาอำนาจที่ยังไร้แววยุติ
ไชน่า โมบาย บริษัทโทรคมนาคมใหญ่ที่สุดของจีน ประกาศว่า บริการ 5จีของบริษัทพร้อมใช้งานแล้วใน 50 เมือง ซึ่งรวมถึงปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ และเซินเจิ้น โดยคิดค่าบริการเริ่มต้นเดือนละ 128 หยวน (ราว 18 ดอลลาร์)
วันเดียวกันนั้น คู่แข่งอีก 2 รายคือ ไชน่า เทเลคอม และไชน่า ยูนิคอม ออกมาเปิดตัวบริการ 5จีในราคาใกล้เคียงกันในเมืองใหญ่หลายเมือง
บริการอินเทอร์เน็ตเคลื่อนที่ความเร็วสูงจาก 5จี ซึ่งเร็วกว่าเครือข่าย 4จีที่ใช้กันอยู่ในขณะนี้ถึง 100 เท่า ช่วยให้ผู้บริโภคดาวน์โหลดหนังทั้งเรื่องในเวลาแค่ไม่กี่วินาที หรือใช้แอปแบบความจริงเสมือน (virtual reality)
เทคโนโลยี 5จียังส่งเสริมรถอัตโนมัติ ระบบอัตโนมัติในโรงงาน และช่วยให้ผู้ใช้ควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ เช่น เครื่องชงกาแฟ และเตา จากระยะไกลผ่านระบบอินเทอร์เน็ต
จีนนั้นถูกคาดหมายว่า จะเป็นผู้นำการยอมรับบริการ 5จี ด้วยยอดสมาชิกกว่า 170 ล้านคนในปีหน้า ทั้งนี้ จากการประเมินของไชน่า เทเลคอม
ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์ของแซนฟอร์ด ซี. เบิร์นสไตน์ คาดว่า อันดับ 2 คือเกาหลีใต้ที่คาดว่า จะมีผู้ใช้ 75,000 คน ตามด้วยอเมริกา 10,000 คน
เฉิน จ้าวเซียง รัฐมนตรีช่วยกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีน กล่าวในงานประชุมเทคโนโลยีเมื่อวันพฤหัสฯ ว่า จีนจะส่งเสริมการผนวกรวมเทคโนโลยีสารสนเทศรุ่นใหม่กับภาคเศรษฐกิจแท้จริง โดยเกี่ยวข้องกับการเร่งรัดการผนวกรวมและการปรับใช้ 5 จีในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น การขนส่ง พลังงาน เกษตรกรรม การศึกษา และสุขภาพ
ที่ผ่านมาปักกิ่งพยายามผลักดันให้มีการเปิดตัวเทคโนโลยีนี้โดยเร็ว และหน่วยงานวางแผนเศรษฐกิจของรัฐบาลระบุในเดือนมกราคมว่า การพัฒนาเครือข่าย 5 จีเป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญสูงสุดด้านการลงทุนของประเทศในปีนี้
อย่างไรก็ตาม แม้เครือข่าย 5 จีประสบความสำเร็จในประเทศ แต่ผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของจีนกลับเผชิญอุปสรรคด้านกฎระเบียบในต่างแดน
ในวันจันทร์ (28 ต.ค.) คณะกรรมาธิการการสื่อสารของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ แถลงว่า กำลังพิจารณาห้ามบริษัทโทรคมนาคมอเมริกันซื้ออุปกรณ์จากหัวเว่ยและแซดทีอีของจีน
วอชิงตันยังขู่แซงก์ชันหัวเว่ย ซึ่งถูกคาดหมายว่าจะเป็นผู้นำด้านฮาร์ดแวร์เครือข่าย 5 จีของโลก
อเมริกานั้นกังวลว่า อุปกรณ์หัวเว่ยอาจอาศัยช่องโหว่ในการรักษาความปลอดภัยและช่วยให้จีนสามารถสอดแนมบนเครือข่ายการสื่อสารทั่วโลก และพยายามกดดันให้ประเทศต่างๆ ในยุโรปร่วมแบนหัวเว่ย
ขณะที่หัวเว่ยยืนกรานปฏิเสธข้อกล่าวหาของอเมริกามาโดยตลอด