รอยเตอร์ - ไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ประกาศแผนทุ่มวงเงินสนับสนุนความมั่นคงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เกือบ 300 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสะท้อนความพยายามของวอชิงตันที่จะต้านทานการสยายอิทธิพลของจีนในภูมิภาคแถบนี้
พอมเพโอ ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนระหว่างการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนและคู่เจรจา ซึ่งจัดขึ้นที่สิงคโปร์ในสัปดาห์นี้ โดยระบุว่า “เพื่อให้เป็นไปตามพันธกิจของเราในการที่จะส่งเสริมความมั่นคงในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก สหรัฐฯ มีความยินดีที่จะมอบวงเงินอุดหนุนเกือบ 300 ล้านดอลลาร์ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือในด้านความมั่นคงทั่วทั้งภูมิภาค”
รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ย้ำว่า เงินช่วยเหลือก้อนนี้จะช่วยยกระดับความมั่นคงปลอดภัยทางทะเล ส่งเสริมภารกิจด้านมนุษยธรรม การรักษาสันติภาพ รวมไปถึงการต่อต้าน “ภัยคุกคามข้ามชาติ”
รัฐบาลสหรัฐฯ เพิ่งประกาศเมื่อต้นสัปดาห์นี้ว่าจะทุ่มเม็ดเงินลงทุน 113 ล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนความริเริ่มในด้านเทคโนโลยี, พลังงาน และโครงสร้างพื้นฐานในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่เอเชีย ซึ่ง พอมเพโอ ชี้ว่าเป็นเสมือน ‘เงินดาวน์’ ที่วอชิงตันนำมาวาง เพื่อยืนยันถึงยุคใหม่ที่สหรัฐฯ จะยังคงมุ่งมั่นสนับสนุนเศรษฐกิจของภูมิภาคนี้
สหรัฐฯ เสนอวิสัยทัศน์ด้านการพัฒนาที่เน้นทำให้อินโด-แปซิฟิกมีความ ‘เสรีและเปิดกว้าง’ เพื่อแข่งขันกับจีนซึ่งกำลังเดินหน้ายุทธศาสตร์ ‘Belt and Road’ เชื่อมสัมพันธ์การค้ากับอาเซียนและประเทศในภูมิภาคอื่นๆ
นักวิเคราะห์มองว่า สงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ ที่ส่อเค้าทวีความรุนแรงขึ้นอาจโหมกระพือความขัดแย้งในประเด็นอื่นๆ ด้วย เช่น ข้อพิพาททะเลจีนใต้ ซึ่งปักกิ่งอ้างกรรมสิทธิ์ทับซ้อนกับหลายประเทศในอาเซียน
ขณะเดียวกัน จีนและอาเซียนก็ได้บรรลุข้อตกลงเริ่มเจรจาจัดทำระเบียบปฏิบัติว่าด้วยทะเลจีนใต้เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (2) แต่ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าความกระตือรือร้นที่จะเจรจานี้เป็นแค่กลยุทธ์ของจีนที่จะ ‘ซื้อเวลา’ เพื่อกระชับจุดยืนให้หนักแน่นมั่นคงขึ้นเท่านั้น
พอมเพโอ ระบุว่า ตนได้แสดงความเป็นห่วงต่อบรรดารัฐมนตรีอาเซียนเรื่องที่จีนเสริมกำลังทหารในทะเลจีนใต้ และเตือนว่าทุกฝ่ายควรต้องเคารพกฎกติกา ขณะเดียวกันก็เอ่ยย้ำถึงการแก้ไขวิกฤตมนุษยธรรมในรัฐยะไข่ของพม่า รวมถึงประเด็นความมั่นคงอื่นๆ ว่ามีส่วนสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมเสรีภาพและความเปิดกว้างในอินโด-แปซิฟิกด้วยเช่นกัน
คำว่า ‘อินโด-แปซิฟิก’ นั้นเริ่มถูกใช้ในแวดวงการทูตและความมั่นคงของสหรัฐฯ ออสเตรเลีย อินเดีย และญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ในความพยายามที่จะทดแทนคำว่า ‘เอเชีย-แปซิฟิก’ ที่บางคนมองว่าให้ความสำคัญกับจีนมากเกินไป
จีนยืนยันว่า ยุทธศาสตร์ ‘Belt and Road’ ซึ่งเป็นนโยบายซิกเนเจอร์ของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง แต่พวกที่ไม่เห็นด้วยมองว่ามันเป็นแค่แผนอำพรางการสยายอิทธิพลทางการเมือง