เอเจนซีส์ - ในวันพิจารณาคดีวันแรกเมื่อวานนี้ (31 ก.ค.) ที่ศาลแขวงสหรัฐฯ ในอเล็กซานเดรีย (Alexandria) รัฐเวอร์จิเนีย ของอดีตผู้จัดการหาเสียงทรัมป์ พอล มานาฟอร์ต (Paul Manafort) พบฝ่ายจำเลยพยายามที่โยนความผิดไปให้กับ ริก เกตส์ (Rick Gates) พยานสำคัญของฝ่ายอัยการในคดีนี้ มานาฟอร์ตถูกอัยการสหรัฐฯ อ้าง เชื่อตัวเขาไม่ต้องทำตามกฎหมายภาษีสหรัฐฯ หรือแม้กระทั่งกฎหมายการธนาคารสหรัฐฯ แถมมีความเป็นอยู่หรูหรา สวมเสื้อแจ็กเกตเสื้อหนังนกกระจอกเทศตัวละ 15,000 ดอลลาร์
CNBC สื่อสหรัฐฯ รายงานเมื่อวานนี้ (31 ก.ค.) ว่า ในการเริ่มต้นการไต่สวนวันแรกเมื่อวันอังคาร(31)กับอดีตผู้จัดการหาเสียงเลือกตั้งปี 2016 ของโดนัลด์ ทรัมป์ พอล มานาฟอร์ต (Paul Manafort)วัย 69 ปีที่ศาลแขวงสหรัฐฯในอเล็กซานเดรีย (Alexandria) รัฐเวอร์จิเนีย พบว่าคณะลูกขุน 12 คนซึ่งประกอบไปด้วยชาย 6 คน และหญิงจะต้องรับฟังหลักฐานจากทีมกฎหมายของมานาฟอร์ตเกี่ยวข้องกับเงินจำนวนหลายล้านดอลลาร์ที่มานาฟอร์ตแอบได้มา รวมไปถึงบัญชีออฟชอร์ที่ซุกไว้ระหว่างทำงานให้กับพรรคการเมืองยูเครนที่สนับสนุนเครมลิน
มานาฟอร์ตถูกฟ้องในคดีฉ้องโกงธนาคารและคดีเลี่ยงภาษี เป็นส่วนหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับคดีไต่สวนรัสเซียยุ่งเกี่ยวการเลือกตั้งสหรัฐฯที่มีอัยการพิเศษสหรัฐฯ โรเบิร์ต มุลเลอร์ ทำการสอบสวน
สื่อสหรัฐฯ ชี้ว่า ในการขึ้นแถลงเปิดในศาล ทีมอัยการสหรัฐฯ แถลงว่า มานาฟอร์ตมีความเชื่อว่า เขาอยู่เหนือกฎหมาย ไม่แม้กระทั่งกฎหมายภาษีสหรัฐฯ หรือกฎหมายธนาคารสหรัฐฯ จากการที่มานาฟอร์ตได้ใช้เงินมหาศาลไปกับอสังหาริมทรัพย์และเสื้อผ้าราคาแพงที่นั่นรวมไปถึงเสื้อแจ็กเกต “ที่ทำมาจากหนังนกกระจอกเทศ”
ผู้ช่วยอัยการสหรัฐฯ อูโซ เอซอนเย (Uzo Asonye)แถลงว่า “เขาได้ในทุกสิ่งที่ต้องการ”
นอกจากนี้ ในการพิจารณาคดี อัยการสหรัฐฯ ยังได้บรรยายต่อหน้าศาลถึงการที่พอล มานาฟอร์ตทำเงินได้ถึง 60 ล้านดอลลาร์จากการทำงานให้พรรคการเมืองยูเครนที่สนับสนุนรัสเซีย และหลังจากนั้นได้แอบซุกเงินไว้กับบริษัทที่ตั้งบังหน้าและธนาคารออฟชอร์
เอซอนเยชี้ว่า มานาฟอร์ตมีชีวิตไลฟสไตล์ที่หรูหราซึ่งเกิดมาจากเงินรายได้ลับๆ ของตัวเอง
และเมื่อลูกค้าที่ปรึกษาของมานาฟอร์ตสูญเสียอำนาจในยูเครน รายได้ที่มีอยู่ได้ร่อยหรอลง ทำให้อดีตผู้จัดการหาเสียงของโดนัลด์ ทรัมป์ หันไปพยายามฉ้อโกงธนาคารเกี่ยวกับสถานภาพทางการเงินของเขาในความพยายามเพื่อที่จะขอเงินกู้
ทั้งนี้ ในการขึ้นให้การต่อศาลของฝั่งอัยการสหรัฐฯ พบว่า พอล มานาฟอร์ต เปิดบัญชีธนาคารไม่ต่ำกว่า 30 บัญชีใน 3 ประเทศเพื่อซ่อนเงินสด และไม่ได้แจ้งในรายได้จำนวน 15 ล้านดอลลาร์ต่อสำนักงานจัดเก็บรายได้สหรัฐฯ IRS ตั้งแต่ระหว่างปี 2010-2014
แต่ทว่า โทมัส เซห์เนิล (Thomas Zehnle) ทนายความของมานาฟอร์ต ขึ้นกล่าวต่อโดยระบุความผิดปกติว่า “ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเพราะชายคนเดียวที่ชื่อ ริก เกตส์ (Rick Gates)”
CNBC ชี้ว่า ในการขึ้นแถลงของฝ่ายมานาฟอร์ต พบว่าทางทนายได้ใช้ความพยายามในการที่จะโยนความผิดทั้งหมดไปให้กับอดีตหุ้นส่วนทางธุรกิจที่ยาวนานของมานาฟอร์ตคือ เกตส์ โดยพบว่าเกตส์เป็นหนึ่งในพยานสำคัญของฝ่ายอัยการสหรัฐฯ และมีกำหนดต้องขึ้นให้การกับศาลในคดีนี้
เซห์เนิลได้ใช้ข้ออ้างว่า ลูกความของเขาเชื่อคนผิดจนทำให้เกิดปัญหาโดยทางทีมทนายฝ่ายค้านได้ชี้ไปถึงเกตส์ ซึ่งเป็นผู้ถูกกล่าวหาว่า ได้ยักยอกเงินจำนวนหลายล้านดอลลาร์จากบริษัทของมานาฟอร์ต และปกปิดไม่ยอมรายงานต่อ IRS ในการแจ้งภาษีรายได้ของตัวเอง
“เงินไหลเข้ามาอย่างรวดเร็ว และเป็นจำนวนมาก มานาฟอร์ตไว้ใจว่าริค เกตส์จะติดตามความเคลื่อนไหวเหล่านั้น...ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่เขาถูกว่าจ้างให้ทำ” โทมัส เซห์เนิลแถลง
และในการกล่าวของทนายความยังชี้ว่า มานาฟอร์ต “ตกลงยอมรับการจ่ายเงิน” จากพรรคการภูมิภาคของยูเครน (Party of Regions) ในบัญชีออฟชอร์ เป็นเพราะบรรดาแกนนำของพรรคยูเครนต้องการให้เป็นแบบนั้น และชี้ว่าได้เปิดบัญชีไว้แล้วโดยให้เหตุผลว่า ไม่ต้องการเปิดเผยถึงตัวผู้สมัครที่ทางพรรคให้การสนับสนุน
ทำให้ทางฝ่ายทนายความของมานาฟอร์ตสรุปว่า ลูกความไม่มีความตั้งใจอย่างแท้จริงจะปกปิด IRS หรือสถาบันการเงินอื่นๆ
ซึ่งบนศาลเซห์เนิลได้เรียกมานาฟอร์ตว่า เป็นที่ปรึกษาทางการเมืองที่มีความสามารถและเป็นคนดี
สื่อสหรัฐฯรายงานว่า นอกเหนือจากที่มานาฟอร์ตต้องถูกไต่สวนที่ศาลในรัฐเวอร์จิเนียแล้ว พบว่าเขายังมีกำหนดต้องขึ้นไต่สวนศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ในเดือนกันยายน ซึ่งยังคงเป็นคดีเกี่ยวข้องกับงานในฐานะที่ปรึกษาพรรคการเมืองยูเครน