เอเจนซีส์ - เมื่อวานนี้ (21 ก.ค.) รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เก ลาฟรอฟ ขอรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ไมค์ พอมเพโอ ให้ปล่อยตัว มาเรีย บูตินา (Maria Butina) ที่ถูกทางการสหรัฐฯจับกุมในข้อหาเป็นสายลับจารกรรมข้อมูลให้มอสโก อ้างเป็นขอหาที่สร้างขึ้น
หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ รายงานเมื่อวานนี้ (21 ก.ค.) ว่า ในการหารือระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ และรัสเซีย พบว่า เซอร์เก ลาฟรอฟ จากรัสเซียได้ขอให้ทางฝ่ายสหรัฐฯทำการปล่อยตัว มาเรีย บูตินา (Maria Butina) พลเมืองรัสเซีย ในข้อหาการเป็นหน่วยจารกรรมลับของมอสโก โดย ลาฟรอฟ ชี้ว่า ***เป็นข้อกล่าวหาที่ถูกสร้างขึ้น****
ซึ่งการหารือผ่านทางโทรศัพท์ระหว่างลาฟรอฟ และ ไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯเกิดขึ้นในวันเสาร์ (21) ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อต้องการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างทั้ง 2 ชาติ กระทรวงต่างประเทศรัสเซีย กล่าวผ่านแถลงการณ์ ซึ่งเป็นผลมาจากการซัมมิตที่เฮลซิงกิล่าสุด
ทั้งนี้ ในวันพุธ (18) พบว่า ผู้พิพากษาสหรัฐฯออกคำสั่งจำคุกบูตินาจนกว่าจะถึงการพิจารณาไต่สวนหลังจากอัยการสหรัฐฯชี้ว่า เธอมีความสัมพันธ์กับหน่วยงานข่าวกรองรัสเซียและอาจหลบหนีออกนอกประเทศได้
เดอะการ์เดียน รายงานว่า มาเรีย บูตินา ถูกกล่าวหาว่า ทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัสเซียและพลเมืองสหรัฐฯ 2 คน ในความพยายามที่จะเข้าแทรกซึมองค์กรสมาพันธ์ไรเฟิลแห่งชาติสหรัฐฯ NRA และส่งอิทธิพลต่อนโยบายสหรัฐฯเพื่อประโยชน์ของรัสเซีย
โดยในการหารือ ลาฟรอฟอ้างว่า การกระทำของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯที่ได้ทำการจับกุมบูตินานั้นเป็นสิ่งที่รับไม่ได้โดยสิ้นเชิง และเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวสปายรัสเซียรายนี้ในทันที่
เดอะการ์เดียนรายงานก่อนหน้า ว่า มีการพบว่าบูตินาปรากฏตัวในภาพถ่ายร่วมกับอดีตเอกอัครราชทูตรัสเซีย ผู้อื้อฉาว เซอร์เก คิสลิแยค (Sergey Kislyak) ที่พัวพันกับทีมหาเสียงของว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์
พบว่าคนทั้งคู่ได้พบปะในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. โดยภาพถ่ายถูกเจ้าหน้าที่ FBI ตรวจพบในอุปกรณ์อิเลกทรอนิกส์ของเธอ อ้างอิงจากอัยการ แต่อย่างไรก็ตามวันที่ตามรูปถ่ายนั้นไม่ระบุ
โดยผู้ช่วยอัยการสหรัฐฯ เอริค เคเนอร์สัน (Erik Kenerson) ได้กล่าวต่อศาลในวอชิงตันวันพุธ (18) ว่า “หากว่าคุณบูตินาตัดสินใจในการที่จะไปยังสถานที่เกี่ยวข้องกับสถานทูต ที่ทำการทูต โดยสารในรถทางการทูต และได้รับการลงทะเบียนกับกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ จะไม่ใครในกระบวนการบังคับใช้กฎหมายสามารถเอาตัวเธอมาได้”