ยังจำได้ไหม? คดีกลุ่มวัยรุ่น 7 คน ฆ่าชายพิการร้านขนมปังเสียชีวิต ทนายความเผยยื่นอุทธรณ์ต่อศาลแล้วให้เพิ่มโทษประหารชีวิต หลังศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกสูงสุด 19 ปี
นายอนันตชัย ไชยเดช ทนายความ เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีที่นายพีรพล ยศพงศ์อนันต์ พร้อมพวกรวม 7 คน ร่วมกันแทงนายสมเกียรติ ศรีจันทร์ ชายพิการจนเสียชีวิต ที่ร้านขนมย่านโชคชัย 4 แยก 69 เขตลาดพร้าว กทม. เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 2559 ว่า เมื่อวันที่ 31 ก.ค. พนักงานอัยการสำนักงานอัยการสูงสุด (สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 9) เป็นโจทก์ พร้อมด้วยนางทองคำ ศรีจันทร์ มารดานายสมเกียรติ และนางธันยชนก ศรีจันทร์ ภรรยานายสมเกียรติ ในฐานะโจทก์ร่วม ได้ยื่นขอยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาศาลชั้นต้น เพื่อขอให้ศาลอุทธรณ์เพิ่มโทษประหารชีวิต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 2560 ศาลชั้นต้นได้พิพากษาจำคุกนายอัครเดช หรืออั๋น ทัศนะ จำเลยที่ 2 และนายอรินทร์ หรือเตอร์ ยศพงศ์อนันต์ จำเลยที่ 6 คนละ 19 ปี ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และฐานบุกรุกเข้าไปในเคหสถานผู้อื่น จำคุกนายพีรพล หรือเปา ยศพงศ์อนันต์ จำเลยที่ 1 และนายมนต์มนัส หรือเต้ย แสงโพธิ์ จำเลยที่ 3 คนละ 18 ปี ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา จำคุกนายจตุพร หรือเบียร์ จันทร์โสภา จำเลยที่ 4 เป็นเวลา 13 ปี ฐานข้อหาพกพาอาวุธไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และฐานช่วยเหลืออำนวยความสะดวก
จำคุกนายเมฆ พลไกรษร จำเลยที่ 5 และ น.ส.ณัฐณิชา หรือเกม ฤทธิ์ล้ำเลิศ จำเลยที่ 7 คนละ 12 ปี ฐานฐานข้อหาพกพาอาวุธไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และให้จำเลยทั้งหมดร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายอันเป็นการกระทำละเมิดและค่าอุปการะแก่โจทก์ร่วมซึ่งเป็นแม่ผู้เสียหาย 360,000 บาท และค่าปลงศพ 140,000 บาท รวมให้ชดใช้ทั้งสิ้น 500,000 บาท ซึ่งนายอนันตชัย เคยกล่าวว่า คดีนี้ชี้แจงตั้งแต่ต้นแล้วว่า พฤติการณ์ของกลุ่มจำเลยเป็นการฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน แต่พนักงานสอบสวนกลับไม่แจ้งข้อหานี้ตั้งแต่ต้น ทำให้กลุ่มจำเลยได้รับโทษน้อยกว่าที่ควร