MGR Online - อัยการคดีอาญายันยื่นสู้อุทธรณ์คดี “แทงลูกชาย” พ่อโดดตึกศาลเสียชีวิต ส่วนคดีสืบพยานชั้นต้น “รองโฆษกฯ” ระบุ มีพยาน 7 ปาก แต่สืบพยานได้ไม่ครบ เตรียมขอคัดคำพิพากษาฉบับเต็ม ก่อนทำความเห็นไปยังอัยการสำนักงานคดีศาลสูง
วันนี้ (24 ก.ค.) นายพิทักษ์ อบสุวรรณ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา ได้กล่าวถึงการพิจารณายื่นอุทธรณ์หรือไม่ ในคำพิพากษาคดีฆาตกรรม นายธนิต ทัฬหสุนทร บุตรของ นายศุภชัย ซึ่ง นายศุภชัยกระโดดอาคารศาลอาญาลงมาเสียชีวิต หลังฟังคำพิพากษายกฟ้องในคดีที่บุตรชายถูกเเทงเสียชีวิตว่า อัยการสำนักงานคดีอาญาเรายืนยันว่าจะยื่นอุทธรณ์ให้คดีขึ้นสู่ศาลอุทธรณ์พิจารณาอีกครั้งเเน่นอน โดยระหว่างนี้เราอยู่ระหว่างยื่นขอคัดคำพิพากษาฉบับเต็มมา ซึ่งคาดว่าจะใช้ระยะเวลาไม่นาน หลังจากนั้น เราจะทำความเห็นไปยังอัยการสำนักงานคดีศาลสูง ว่า เรามีความประสงค์ที่จะอุทธรณ์สู้คดีนี้ต่อในชั้นอุทธรณ์ ซึ่งอัยการศาลสูงก็จะเป็นผู้พิจารณาซึ่งเราจะต้องยื่นอุทธรณ์ภายใน 30 วัน ก็คาดว่าจะไม่มีปัญหา
ส่วนแนวทางยื่นอุทธรณ์ “นายพิทักษ์ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา” กล่าวว่า เบื้องต้นที่ศาลยกฟ้องเนื่องจากเราไม่ได้ประจักษ์พยานไปเบิกความในชั้นพิจารณาคดี ซึ่งประจักษ์พยานที่ว่านี้ป่วยรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล คณะทำงานเราก็จะดูว่ามีช่องทางขั้นตอนที่จะสู้คดีตรงนี้อย่างไร ส่วนจะสามารถเอาประจักษ์พยานปากที่ว่านี้เข้าสู่การพิจารณาของศาลอุทธรณ์ได้หรือไม่นั้นตอนนี้ยังตอบไม่ได้ จะต้องขอประชุมกับคณะทำงานก่อน เรื่องนี้คณะทำงานก็จะต้องมาประชุมกันว่าจะมีเเนวทางอย่างไรเนื่องจากการสืบพยานจบลงในศาลชั้นต้นไปเเล้ว ตรงนี้จะมีวิธีการหรือข้อกฎหมายที่จะสู้คดีในชั้นอุทธรณ์อย่างไรต่อไป
“เราจะประสานทำความเห็นไปยังอธิบดีอัยการศาลสูงว่าเราควรจะอุทธรณ์ ตอนนี้เรารอคัดคำพิพากษาซึ่งคดีนี้ประชาชนสนใจศาลก็น่าจะเร็วเราก็ต้องเร็วตาม ถ้ามีประเด็นที่จะอุทธรณ์ได้เราต้องอยากที่จะอุทธรณ์ให้เปลี่ยนเเปลงคำพิพากษา คดีนี้ประชาชนสนใจทางอัยการเราก็อาจจะต้องเเถลงข่าวในวันสองวันนี้” นายพิทักษ์ ระบุ
ขณะที่ “นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง” รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงเรื่องเดียวกันนี้ ว่า วันนี้ตนเข้าพบอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 4 และได้พบอัยการเจ้าของสำนวนด้วย ซึ่งทราบว่าอัยการได้สั่งฟ้องคดีและยื่นฟ้องคดีไปโดยครบถ้วนทำหน้าที่ ไม่มีข้อบกพร่อง โดยอัยการเสนอพยานไป 7 ปากแต่ก็นำมาเบิกความได้ไม่ครบก็ตาม ส่วนภาพจากทีวีวงจรปิดอัยการได้ทำหนังสือให้พนักงานสอบสวนไปเอามาให้ได้ แต่ก็ติดตามมาให้ไม่ได้ ซึ่งอัยการสงสัยอะไรก็ให้รวบรวมเข้าในสำนวนคดี ให้เสร็จสิ้นกระแสความแต่เมื่อไม่ได้ก็สืบเต็มที่เท่าที่มี ส่วนพยานที่ป่วย บิดาของพยานก็เป็นคนยื่นคำแถลงเข้ามาเอง มีใบรับรองแพทย์มาประกอบ
“เมื่อเกิดเหตุที่น่าสลดใจเกิดขึ้น สำนักงานอัยการสูงสุดขอแสดงความเสียใจ แต่คดีที่ยังสืบพยานในคดีเยาวชนที่ฟ้องนายอาร์ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี คดีอยู่ระหว่างสืบพยาน ในมูลคดีความผิดกรรมเดียวกันกับคดีนี้ อัยการจะทำอย่างสุดความสามารถ” รองโฆษกอัยการสูงสุด กล่าวและว่าคดีนี้ อัยการสำนักงานคดีอาญา 4 ได้สั่งรวบรวมสรรพเอกสารในสำนวนกับขอคัดคำพิพากษาเตรียมเสนอสำนักงานอัยการคดีศาลสูง เพื่อพิจารณายื่นอุทธรณ์ โดยทำอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ดี การพิจารณาคดีระบบศาลไทยใช้ระบบกล่าวหา ซึ่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา บอกว่า ถ้ายังมีข้อสงสัย ให้ยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย จึงอาจทำให้เกิดกระแสความคิดในหมู่นักกฎหมายว่าสมควรแก้ไขกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาแล้วหรือยัง