MGR Online - ญาติร่ำไห้รับศพ “ศุภชัย ทัฬหสุนทร” โดดตึกศาล หลังฟังคำพิพากษายกฟ้องคดีลูกชายถูกคนร้ายแทงเสียชีวิต ภรรยาเผยตัวเองเตรียมจะกระโดดตึกตายเช่นกันแต่มีคนดึงไว้ทัน ขอบคุณผู้มีอำนาจสั่งตรวจสอบสำนวนคดีใหม่ แฉคู่กรณีเป็นผู้มีอิทธิพล ที่ผ่านมาตำรวจให้ครอบครัวหาหลักฐานเอง จนสามีต้องลาออกจากงานมาตามคดี
วันนี้ (24 ก.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น. ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ นางเรวดี ทัฬหสุนทร ภรรยา พร้อมบรรดาญาติ เดินทางมารับศพนายศุภชัย ทัฬหสุนทร ที่กระโดดจากชั้น 8 อาคารศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก จนเสียชีวิตเมื่อวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากเกิดความเครียดและผิดหวังหลังจากศาลพิพากษายกฟ้องคดีที่นายธนิต ทัฬหสุนทร ลูกชายที่ถูกคนร้ายแทงเสียชีวิตเมื่อวันที่ 15 เม.ย. 2559
นางเรวดีกล่าวทั้งน้ำตว่า ไม่เคยคิดมาก่อนว่าสามีจะกระโดดตึกฆ่าตัวตาย เพราะก่อนเดินทางไปฟังคำพิพากษา สามีอารมณ์ดีร่าเริง ไม่คิดว่าศาลจะยกฟ้อง อีกทั้งไม่มีลางบอกเหตุอะไร จนกระทั่งศาลอ่านคำพิพากษาเสร็จ คิดว่าสามีขอตัวไปเข้าห้องน้ำ แต่ก็ไม่คิดว่าจะคิดสั้น อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าตอนนั้นตนก็คิดจะกระโดดตึกฆ่าตัวตายเหมือนกันแต่มีคนมาดึงไว้ทัน
ทั้งนี้ วอนขอความเป็นธรรมต่อผู้มีอำนาจ เนื่องจากครอบครัวต้องสูญเสียทั้งสามีและลูก หากถึงที่สุดแล้วไม่ได้รับความเป็นธรรมก็มีสิทธิ์ที่จะคิดสั้นแม้ว่าคนอื่นจะมองว่าตัวเองเป็นคนโง่ก็ตาม อย่างไรก็ตาม จะนำร่างของสามีไปเพ็ญกุศลที่วัดกุนนทีรุทธาราม ย่านห้วยขวาง เป็นเวลา 3 วัน
นางเรวดีกล่าวว่า สำหรับแนวทางการต่อสู้คดีหลังจากนี้ตนยืนยันว่าจะเดินหน้าสู้คดีต่อทั้งในชั้นศาลอุทธรณ์ และฎีกา โดยขอขอบคุณผู้มีอำนาจที่สั่งให้มีการรวบรวมหลักฐานเพื่อตรวจสอบว่าคดีมีความบกพร่องส่วนใด เพราะที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ครอบครัวหาหลักฐานฝ่ายเดียว ถึงขั้นสามีลาออกจากงานประจำเพื่อติดตามคดีและหาหลักฐาน จึงรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมเนื่องจากคู่กรณีเป็นผู้มีอิทธิพลเป็นคนมีฐานะในท้องถิ่น ทำให้พยานจำนวนมากไม่กล้าบอกว่าใครเป็นคนร้ายที่แท้จริงเพราะไม่อยากเดือดร้อน
นอกจากนี้ พยานหลักฐานที่เป็นกล้องวงจรปิดไม่สามารถนำมาใช้ในการหักล้างกับคู่กรณีได้ เนื่องจากมีกล้องบางตัวในจุดเกิดเหตุไม่สามารถใช้การได้ อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าหากตำรวจมีความพยายามในการหาหลักฐาน เชื่อว่าสามารถหาคนร้ายตัวจริงมาลงโทษได้ บางคดีศพถูกเผายังหาคนร้ายมาลงโทษได้เลย