รอยเตอร์ - เร็วๆ นี้ราคาน้ำมันจะแตะ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สืบเนื่องจากความยุ่งเหยิงทางอุปทานที่มีประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เป็นต้นตอ ผู้ว่าการประจำโอเปกของเตหะรานบอกกับรอยเตอร์ในวันพฤหัสบดี (5 ก.ค.) พร้อมออกปากเตือนเปล่าประโยชน์ที่จะคาดหวังว่าซาอุดีอาระเบียกับรัสเซียจะช่วยฉุดราคาลง
ทรัมป์ออกมากล่าวหาอีกครั้งเมื่อวันพุธ (4 ก.ค.) ว่าโอเปกผลักราคาน้ำมันเชื้อเพลิงให้สูงขึ้น และเรียกร้องพันธมิตรสหรัฐฯอย่างเช่นซาอุดีอาระเบียสูบน้ำมันเพิ่มขึ้น หากริยาดต้องการให้วอชิงตันเดินหน้าปกป้องพวกเขาจากคู่อริสำคัญอย่างอิหร่าน
อย่างไรก็ตาม ฮุสเซน คาเซมพัว ผู้ว่าการประจำโอเปกของอิหร่าน บอกกับรอยเตอร์ว่า ทรัมป์ อาจคาดหวังว่าเมื่อมีการขัดขวางอิหร่านจากการเข้าถึงตลาดโลก อิหร่านจะลงเอยในฐานะเชลยของซาอุดีอาระเบียและรัสเซีย แต่ผลประโยชน์จากการฉุดน้ำมันให้ต่ำลงแทบไม่ตกลงสู่ประเทศทั้งสองเลย
“ความรับผิดชอบที่ทำให้พวกผู้บริโภคทั้งโลกต้องจ่ายค่าน้ำมันราคาแพงโดยไม่จำเป็น อยู่บนบ่าของคุณ(ทรัมป์) เพียงคนเดียว และราคาเหนือ 100 ดอลลาร์ใกล้เข้ามาแล้ว” คาเซมพัวกล่าว
อิหร่าน ชาติผู้ผลิตรายใหญ่อันดับ 3 ของโอเปก กำลังเผชิญมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯที่กำหนดเล่นงานภาคการส่งออกน้ำมันของพวกเขา ที่กระตุ้นให้ผู้ซื้อบางส่วนจำเป็นต้องตัดลดการซื้อน้ำมันจากเตหะราน
ประธานาธิบดีจากรีพับลิกันรายนี้โจมตีโอเปกบ่อยครั้งในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ในขณะที่ราคาน้ำมันเบนซินที่สูงขึ้นกำลังก่อปัญหาปวดหัวทางการเมืองแก่ทรัมป์ ก่อนถึงศึกเลือกตั้งกลางเทอมในเดือนพฤศจิกายน แม้ฝ่ายรีพับลิกันอ้างว่ามาตรการลดภาษีของเขาและการลดกฎระเบียบทางราชการช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ก็ตาม
ทรัมป์ระบุในทวิตเตอร์เมื่อวันเสาร์ ว่าซาอุดีอาระเบียตกลงเพิ่มกำลังผลิตน้ำมันสูงสุด 2 ล้านบาร์เรล โดยผู้นำของซาอุดอาระเบีย สมาชิกรายใหญ่ของโอเปก รับประกันกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ ว่าประเทศของพวกเขาสามารถเพิ่มกำลังผลิตได้ถ้าจำเป็นและอาจเพิ่มขีดความสามารถด้านผลิตที่ยังเหลืออีก 2 ล้านบาร์เรลเพื่อช่วยสยบราคาน้ำมัน ชดเชยอุปทานที่ลดลงในเวเนซุเอลาและอิหร่าน
ประธานาธิบดีทรัมป์แสดงความคร่ำครวญต่อโอเปก ในช่วงเวลาที่วอชิงตันถาโถมแรงกดดันใส่พันธมิตรยุโรปให้หยุดซื้อน้ำม้นอิหร่าน กระตุ้นให้เตหะรานขู่ขัดขวางเส้นทางการส่งออกน้ำมันผ่านน่านน้ำหลักในอ่าวเปอร์เซีย ตอบโต้พฤติกรรมที่เป็นปรปักษ์ของอเมริกา
คาเซมพัว ระบุว่า “เราต่างเป็นเพื่อนบ้านกันและจะยังเป็นอยู่แบบนี้ ดังนั้นเรารู้ว่าเราสามารถและต้องใช้ชีวิตร่วมกัน ไม่มีใครต้องการให้คุณ(ทรัมป์)มาปกป้อง คุณกำลังสู้รบกับทุกคน นับตั้งแต่คุณก้าวขึ้นมาดำรงตำแหน่ง”
