รอยเตอร์/เอเอฟพี - ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ขูู่รีดภาษี 20% ต่อรถยนต์ทุกคันที่ประกอบในสหภาพยุโรปแล้วนำเข้าสหรัฐฯ หนึ่งเดือนหลังรัฐบาลอเมริกาลงมือสืบสวนว่ายานยนต์นำเข้าเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของชาติหรือไม่ และหลังจากมาตรการรีดภาษีเพิ่มเติมของอียูต่อผลิตภัณฑ์อเมริกาหลายสิบรายการมีผลบังคับใช้
“จากการกีดกันทางการค้าในรูปแบบของภาษีที่สหภาพยุโรปกำหนดยาวเหยียดต่อสหรัฐฯ ถ้ามาตรการกีดกันทางการค้าในรูปแบบของภาษีนี้ไม่ถูกถอดออกไป เราจะเรียกเก็บภาษี 20% ต่อรถยนต์ทุกคันที่นำเข้าสู่สหรัฐฯ ประกอบมันที่นี่แหละ!” ทรัมป์เขียนบนทวิตเตอร์
ทรัมป์เคยเตือนหลายต่อหลายครั้งว่าเขาจะไม่รีรอที่จะออกมาตรการทางภาษีเพิ่มเติมต่อยานยนต์นำเข้าจากต่างประเทศเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมรถยนต์ของสหรัฐฯ โดยเฉพาะรถยนต์ของเยอรมนี ในขณะที่ประธานาธิบดีจากรีพับลิกันรายนี้คร่ำครวญว่าบนท้องถนนของนิวยอร์กมีแต่รถยนต์เมอร์เซเดส แต่ในทางตรงกันข้าม กลับไม่ค่อยพบเห็นรถยนต์อเมริกาในยุโรป
มาตรการทางภาษีใหม่ของสหภาพยุโรปซึ่งจะมีผลตั้งแต่เที่ยงคืนเป็นต้นไป เป็นมาตรการที่ออกมาตอบโต้ ทรัมป์ ที่ตัดสินใจรีดภาษี 25% ต่อเหล็กและ 10% ต่ออะลูมิเนียมนำเข้าจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก ในนั้นรวมถึงพันธมิตรของวอชิงตันบางส่วน
กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ กำลังสืบสวนว่ายานยนต์และอะไหล่รถยนต์นำเข้าเสี่ยงเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของประเทศหรือไม่ โดยเส้นตายเสร็จสิ้นการสืบสวนคือในเดือนกุมภาพันธ์ 2019 แต่รัฐมนตรีพาณิชย์ เผยเมื่อวันพฤหัสบดี (21 มิ.ย.) ว่าทางกระทรวงมีเป้าหมายดำเนินการสืบสวนให้เสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุด เป็นไปได้ว่าจะเป็นในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมหรือสิงหาคม
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ วิพากษ์วิจารณ์รถยนต์นำเข้าจากเยอรมนีหลายต่อหลายครั้ง โดยหนล่าสุดเกิดขึ้นระหว่างการประชุมร่วมกับพวกผู้ผลิตรถยนต์ที่ทำเนียบขาวเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม โดย ทรัมป์ แจ้งต่อพวกผู้บริหารบริษัทรถยนต์ว่าเขามีแผนเก็บภาษี 20 ถึง 25% ต่อรถยนต์นำเข้าบางรุ่นและวิพากษ์วิจารณ์อุตสาหกรรมยานยนต์ของเยอรมนีอย่างดุเดือด ต่อกรณีได้เปรียบดุลการค้าสหรัฐฯ
ปัจจุบันสหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีรถยนต์นั่งที่นำเข้าจากสหภาพยุโรป 2.5% และรถกระบะ 25% ส่วนอียูเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากสหรัฐฯ 10%
ข้อเสนอรีดภาษีของทรัมป์ถูกประณามอย่างรุนแรงจากเหล่า ส.ส.รีพับลิกันและภาคธุรกิจ ในขณะที่องค์กรกลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นตัวแทนของผู้ผลิตรถยนต์สหรัฐฯ และต่างชาติ บอกว่า “พวกเขาเชื่อมั่นว่ารถยนต์นำเข้าไม่ได้เสี่ยงเป็นภัยคุกคามความมั่นคงประเทศ”
ส่วนสภาหอการค้าสหรัฐฯ เน้นว่าการผลิตรถยนต์ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 2 เท่าในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา และเตือนว่ามาตรการรีดภาษีจะก่อความเสียหายแก่อุตสาหกรรมรถยนต์แทนที่จะเป็นการปกป้องตามคำกล่าวอ้าง และอาจเสี่ยงโหมกระพือสงครามการค้าโลก