“ทรัมป์” อนุมัติความช่วยเหลือฉุกเฉินแก่เหยื่อภูเขาไฟระเบิดใน “ฮาวาย”

รอยเตอร์ - ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ อนุมัติงบประมาณสำหรับสร้างที่พักอาศัยชั่วคราวและช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากการปะทุของภูเขาไฟคิลาเว (Kilauea) ในรัฐฮาวายเมื่อวานนี้ (14 มิ.ย.) หลังมีบ้านเรือนประชาชนถูกธารลาวาเผาไหม้ไปแล้วหลายร้อยหลัง

ความช่วยเหลือจากรัฐบาลกลางมีขึ้นเพียง 1 วันหลังจากที่ เดวิด อิเก ผู้ว่าการรัฐฮาวาย ได้ทำเรื่องขอความช่วยเหลือให้แก่พลเมืองราว 2,800 คนที่ต้องสูญเสียบ้าน นับตั้งแต่ภูเขาไฟคิลาเวบนเกาะบี๊กไอแลนด์เริ่มปะทุครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 3 พ.ค.

แฮร์รี คิม นายกเทศมนตรีประจำเทศมนฑลฮาวาย เปิดเผยว่า ลาวาที่ไหลทะลักขึ้นมาตามรอยแยกของแผ่นดินบริเวณเชิงภูเขาไฟคิลาเวได้ทำลายบ้านเรือนไปแล้วประมาณ 600 หลัง ขณะที่สำนักงานผู้ว่าการรัฐฮาวายระบุตัวเลขเอาไว้ที่ 455 หลัง

ตัวเลขทั้งสองล้วนถือเป็นสถิติการทำลายล้างสูงสุดในระยะเวลาอันสั้น เมื่อเทียบกับการระเบิดของภูเขาไฟฮาวายลูกอื่นๆ ในช่วงประวัติศาสตร์ยุคใหม่ และมากกว่าจำนวนบ้านเรือน 215 หลังที่ถูกทำลายในวงรอบการปะทุครั้งก่อนของภูเขาไฟคิลาเว ซึ่งเริ่มในปี 1983 และต่อเนื่องไม่หยุดมาเป็นเวลาถึง 30 ปี

การปะทุของภูเขาไฟคิลาเวคราวนี้ยังสร้างความสูญเสียให้กับสหรัฐอเมริกามากที่สุด ถัดจากกรณีภูเขาไฟเซนต์เฮเลนส์ในรัฐวอชิงตันระเบิดเมื่อปี 1980 ซึ่งทำให้ที่ดินหลายร้อยตารางไมล์กลายสภาพเป็นพื้นที่รกร้าง

อย่างไรก็ตาม ขอบเขตความเสียหายจากการปะทุของภูเขาไฟคิลาเวยังถือว่ามีขนาดเล็กกว่าภูเขาไฟเซนต์เฮเลนส์มาก คือประมาณ 6,000 เอเคอร์ หรือประมาณ 7 เท่าของสวนสาธารณะเซ็นทรัลพาร์คในย่านแมนฮัตตัน

หนังสือพิมพ์โฮโนลูลูหนังสือพิมพ์ โฮโนลูลู สตาร์-แอดเวอร์ไทเซอร์ รายงานในสัปดาห์นี้ว่า เจ้าของบ้านซึ่งมีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการ Individuals and Households Program ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานบริหารจัดการภัยพิบัติส่วนกลาง (FEMA) อาจได้รับเงินชดเชยสูงสุด 34,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อคน (ประมาณ 1.1 ล้านบาท)

โครงการที่ว่านี้มีจุดประสงค์เพื่อช่วยเหลือพลเมืองที่พลัดถิ่นฐาน และจัดหาที่พักชั่วคราวให้ระหว่างที่กำลังสร้างหรือซ่อมแซมบ้านใหม่

นอกจากช่วยเหลือเรื่องที่อยู่อาศัยแล้ว ทรัมป์ ยังอนุมัติมาตรการบรรเทาทุกข์ตามโครงการอื่นๆ ของ FEMA เช่น การให้คำปรึกษาในภาวะวิกฤต, เงินชดเชยกรณีว่างงาน และความช่วยเหลือทางกฎหมาย เป็นต้น

ภูเขาไฟคิลาเวยังคงปะทุต่อเนื่องเข้าสู่วันที่ 43 เมื่อวันพฤหัสบดี (14) และนอกจากก๊าซพิษซัลเฟอร์ไดออกไซด์ที่ออกมาจากรอยแยกกว่า 20 จุดทางฝั่งตะวันออกของภูเขาไฟแล้ว เถ้าถ่านซึ่งปะทุออกจากปากปล่องเป็นระยะๆ ยังสร้างความเดือดร้อนรำคาญ และเป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชนที่อาศัยอยู่ใต้ลม