เอเจนซีส์ - ภูเขาไฟฟูเอโก ในกัวเตมาลา เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 40 ปีเมื่อวันอาทิตย์ (3 มิ.ย.) พ่นเถ้าถ่านและลาวาไหลปกคลุมพื้นที่กว้างขวาง ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 25 คน และสูญหายอีกไม่ทราบจำนวน สนามบินหลักในเมืองหลวงต้องงดให้บริการ รัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินใน 3 เขต ที่สำคัญยังมีคำเตือนให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือภูเขาไฟที่อาจปะทุขึ้นอีก ขณะเจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้ความพยายามในการเข้าให้ถึงประชาชนซึ่งอยู่ท่ามกลางบ้านเรือนและถนนหนทางที่ดำเกรียมและปกคลุมด้วยเถ้าถ่าน
เดวิด เดอ ลีออน โฆษกสำนักงานภัยพิบัติกัวเตมาลา แถลงว่า เถ้าถ่านและลาวาที่พ่นออกมาจากภูเขาไฟลูกนี้ เมื่อนับถึงช่วงคืนวันอาทิตย์ (3) ทำให้มีผู้เสียชีวิตย่างน้อย 25 ราย ซึ่งรวมถึงเด็กและเจ้าหน้าที่ปกป้องพลเรือน โดยผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่พบใน 3 เมืองคือ เอล โรดิโอ, อโลเตนันโก, และซาน มิเกล ลอส โลเตส
ขณะที่ปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยต้องระงับชั่วคราวเมื่อถึงกลางคืน เนื่องจากแสงสว่างไม่เพียงพอและฝนตก โดยจะเริ่มทำงานกันอีกครั้งตั้งแต่เช้ามืดวันจันทร์
เวลาเดียวกัน สถาบันวิทยาการภูเขาไฟของกัวเตมาลาระบุว่า ภูเขาไฟฟูเอโกหยุดปะทุแล้วหลังจากระเบิดนานกว่า 16 ชั่วโมงตั้งแต่ช่วงก่อนเที่ยงวันอาทิตย์ แต่เตือนว่า อาจมีการปะทุขึ้นอีกพร้อมแนะนำให้ประชาชนเตรียมการป้องกันล่วงหน้า
ด้านเอ็ดดี้ ซานเชซ ผู้อำนวยการสถาบันแผ่นดินไหว ภูเขาไฟ และอุตุนิยมวิทยาของกัวเตมาลา เผยว่า ตะกอนภูเขาไฟมีอุณหภูมิสูงถึง 700 องศาเซลเซียส
การปะทุของภูเขาไฟที่มีความสูง 3,763 เมตรลูกนี้ ปล่อยเถ้าถ่านร้อนเดือดไหลปกคลุมบริเวณโดยรอบ ทำให้ต้นไม้มอดไหม้ ลาวายังท่วมถนน รถยนต์ และบ้านเรือนมากมาย รวมถึงผู้คน
คลิปที่มีผู้บันทึกไว้ได้เผยให้เห็นตะกอนภูเขาไฟไหลบ่าอย่างรวดเร็วเข้าทำลายสะพานบนทางหลวงสายหนึ่งที่เชื่อมต่อระหว่างซากาเตเปเควซกับเอสกินต์ลา
แซร์จิโอ คาบานาส ผู้อำนวยการหน่วยประสานงานเพื่อลดผลกระทบจากภัยพิบัติแห่งชาติ (คอนเรด) ไม่ปฏิเสธว่า ยอดผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้นเนื่องจากยังมีคนสูญหายจำนวนมาก
เขายังบอกว่า เหตุการณ์นี้ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 20 คน และส่งผลกระทบต่อประชาชนกว่า 1.7 ล้านคน จากประชากรทั้งหมด 15 ล้านคน และชาวบ้านราว 3,000 คนต้องอพยพหลบหนี
คาบานาสเสริมว่า แอนติกา กัวเตมาลา เมืองยุคอาณานิคมที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญได้รับผลกระทบจากภูเขาไฟระเบิดครั้งนี้ เช่นเดียวกับท่าอากาศยานนานาชาติกัวเตมาลาซิตี ที่ต้องปิดให้บริการเพื่อความปลอดภัยของนักเดินทางและเครื่องบิน
ประธานาธิบดีจิมมี มอราเลส และรัฐบาลกัวเตมาลา ประกาศไว้อาลัยทั่วประเทศนาน 3 วัน รวมทั้งประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในเอสกินต์ลา ชิมัลเทนันโก และซากาเตเปเควซ ซึ่งต้องได้รับสัตยาบันรับรองจากรัฐสภาก่อน
มอราเลสแถลงว่า ตำรวจ ทหารและ เจ้าหน้าที่สภากาชาดรวมหลายร้อยคนถูกส่งไปสนับสนุนปฏิบัติการฉุกเฉินแล้ว
เหตุการณ์ภูเขาไฟระเบิดครั้งนี้ถือเป็นการระเบิดรุนแรงครั้งที่ 2 ที่เกิดขึ้นในปีนี้ โดยครั้งแรกเกิดขึ้นต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ภูเขาไฟพ่นเถ้าถ่านสูง 1.7 กิโลเมตร
ภูเขาไฟลูกนี้ยังเคยปะทุมาก่อนเมื่อเดือนกันยายน 2012 ทำให้ประชาชนประมาณ 1,000 คนต้องอพยพออกนอกพื้นที่ และอีกครั้งในเดือนกุมภาพันธ์ 2015 ซึ่งทำให้สนามบินหลักในเมืองหลวงต้องปิดให้บริการ
นอกจากภูเขาไฟฟูเอโกแล้ว กัวเตมาลายังมีภูเขาไฟที่มีพลังอีก 2 ลูก หนึ่งในนั้นคือ ปากายาที่อยู่ห่างจากกัวเตมาลาซิตี้เพียง 20 กิโลเมตร