เอเอฟพี - เพนตากอนในวันพุธ (18 เม.ย.) ปฏิเสธรายงานข่าวที่ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ บอกปัดคำแนะนำของ จิม แมตทิส หลังรัฐมนตรีกลาโหมรายนี้เรียกร้องให้เขาขออนุมัติจากรัฐสภา เพื่อยิงขีปนาวุธโจมตีซีเรียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวทหารและเจ้าหน้าที่รัฐบาลซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนาม ระบุว่า แมตทิส พยายามผลักกันให้ ทรัมป์ ขอไฟเขียวจากสภาคองเกรส ก่อนหน้าการยิงขีปนาวุธร่อนโจมตีเป้าหมายต่างๆ ในซีเรียเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ซึ่งทางเพนตากอนระบุว่าเป้าหมายเหล่านั้นมีความเกี่ยวข้องกับโครงการอาวุธเคมีของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดแห่งซีเรีย
นิวยอร์กไทมส์อ้างอีกว่า แมตทิสพบปะกับทรัมป์หลายครั้งตามที่ประชุมต่างๆ และใช้โอกาสนั้นพยายามผลักดันให้เขาขออำนาจจากสภาคองเกรส โดยย้ำถึงความจำเป็นที่ปฏิบัติการทางทหารต่างๆต้องได้รับการสนับสนุนจากประชาชน
อย่างไรก็ตาม โฆษกเพนตากอนระบุว่า คำกล่าวอ้างในบทความที่ว่า แมตทิส พยายามผลักดัน ทรัมป์ ให้ขอความเห็นชอบจากสภาคองเกรสนั้น “ไม่เป็นความจริงแม้แต่น้อย”
ส่วนเจ้าหน้าที่เพนตากอนรายหนึ่งยืนยันกับเอเอฟพีว่าไม่มีการโต้เถียงกัน และทุกคนเห็นพ้องว่าทรัมป์ มีอำนาจที่จำเป็นสำหรับปฏิบัติการโจมตีทางอาากศในซีเรีย
มื่อคืนวันศุกร์ (13 เม.ย.) ต่อเนื่องถึงเช้าวันเสาร์ (14 เม.ย.) อเมริกา อังกฤษ และฝรั่งเศส ยิงขีปนาวุธมากกว่า 100 ลูก ใส่บริเวณที่เพนตากอนอ้างว่า เป็นโรงงานผลิตอาวุธเคมี 3 แห่งในซีเรีย เพื่อตอบโต้การใช้ก๊าซพิษโจมตีเมืองดูมา ซึ่งขณะนั้นอยู่ในการควบคุมของฝ่ายกบฏซีเรีย เมื่อวันที่ 7 เม.ย. จนทำให้ประชาชนเสียชีวิตหลายสิบคน
ตะวันตกเชื่อว่าเหตุโจมตีที่เมืองดูมาเป็นฝีมือรัฐบาลซีเรีย ทว่า ดามัสกัสและรัสเซีย ผู้เป็นพันธมิตรสำคัญ ต่างยืนยันว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในเหตุการณ์ดังกล่าว
ในขณะที่ทรัมป์ แสดงความประสงค์ตอบโต้กรณีต้องสงสัยใช้อาวุธเคมีโจมตีในซีเรียอย่างว่องไว แต่ทางสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ หลายคนไม่อยากเข้าพัวพันทางทหารในซีเรียไปมากกว่านี้ จนกว่า ทรัมป์ จะมียุทธศาสตร์ระยะยาวสำหรับประเทศแห่งนี้เสียก่อน