เอเอฟพี/มาร์เกตวอตช์ - น้ำมันปิดทรงตัวในวันพฤหัสบดี (12 เม.ย.) นักลงทุนจับตาสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง อย่างไรก็ตามวอลล์สตรีทพุ่งแรงและทองคำร่วงหนัก หลัง ทรัมป์ ส่งสัญญาณใช้แนวทางระมัดระวังมากขึ้นต่อความเป็นไปได้ที่จะยิงขีปนาวุธโจมตีซีเรีย
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 25 เซ็นต์ ปิดที่ 67.07 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอนงวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 4 เซ็นต์ ปิดที่ 72.02 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ตลาดน้ำมันเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ เหตุนักลงทุนติดตามพัฒนาการของสถานการณ์ความตึงเครียดต่างๆ ในตะวันออกกลาง ในนั้นรวมถึงความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯ จะโจมตีซีเรีย ซึ่งอาจกระทบต่อกำลังผลิตน้ำมันในภูมิภาค
อย่างไรก็ตาม ด้วยที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดี (12 เม.ย.) ส่งสัญญาณใช้แนวทางระมัดระวังมากขึ้นต่อการยิงขีปนาวุธโจมตีซีเรีย ช่วยดันตลาดหุ้นอเมริกาพุ่งแรง ด้วยดาวโจนส์ปิดบวกเกือบ 300 จุด
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 293.60 จุด (1.21 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 24,483.05 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 21.80 จุด (0.83 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,663.99 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 71.22 จุด (1.01 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 7,140.25 จุด
เมื่อวันพุธ (11 เม.ย.) ราคาน้ำมันร่วงลงหนัก หลัง ทรัมป์ เขียนบนทวิเตอร์บ่งชี้ว่าปฏิบัติการโจมตีทางทหารถล่มซีเรียอาจเกิดขึ้นได้ทุกขณะ อย่างไรก็ตาม ในวันพฤหัสบดี (12 เม.ย) ผู้นำสหรัฐฯ ใช้สุ้มเสียงที่นุ่มนวลลงซึ่งช่วยคลายความกังวลแก่นักลงทุน “ไม่เคยพูดเลยว่าเมื่อไหร่จะมีการโจมตีซีเรีย” ทรัมป์ระบุ “การโจมตีซีเรียอาจใกล้เข้ามาแล้ว หรืออาจไม่ใช่เร็ววันนี้ก็ได้”
ส่วนราคาทองคำในวันพฤหัสบดี (12 เม.ย.) ปิดลบเป็นครั้งแรกในรอบ 5 วัน หลัง ทรัมป์ ใช้ถ้อยคำนุ่มนวลลงเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะลงมือโจมตีซีเรีย ตอบโต้กรณีต้องสงสัยว่ารัฐบาลของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ใช้อาวุธเคมีเล่นงานพลเรือน โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 18.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,341.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์