โบรกฯ มองแนวโน้มดัชนีเช้านี้อ่อนตัวกรอบจำกัด หลังดาวโจนส์ร่วง นักลงทุนรอดูประชุมผผู้ถือหุ้น PTT ขณะที่ราคาน้ำมันพุ่งช่วยประคองตลาด โดยวันนี้ยังเป็นวันทำการสุดท้ายก่อนเข้าสู่วันหยุดยาว 13-16 เม.ย. อาจจะทำให้มูลค่าการซื้อขายลดลง และนักลงทุนส่วนใหญ่ก็จะเน้นการตั้งรับมากกว่าการไล่ราคาหุ้น กดดันให้ภาพรวมการลงทุนมีลักษณะการซึมตัวและแกว่งตัวในกรอบแคบ
นายคณฆัส จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล. โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ภาพรวมน่าจะอ่อนตัวลง รับปัจจัยจากต่างประเทศหลังเมื่อคืนนี้ (11 เม.ย.) ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงจากความกังวลต่อสถานการณ์ในซีเรีย หลังจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ขู่ว่า สหรัฐฯ จะยิงขีปนาวุธถล่มซีเรีย เพื่อตอบโต้รัฐบาลของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ที่ใช้อาวุธเคมีสังหารประชาชน รวมถึงรายงานการประชุมประจำเดือนมี.ค. ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งระบุว่า กรรมการเฟดต่างก็สนับสนุนให้เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ตลอดจนนักลงทุนยังรอดตัวการประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/61 ของธนาคารรายใหญ่ อย่างเจพีมอร์แกน เชส, ซิตี้กรุ๊ป และเวลส์ ฟาร์โก
สำหรับปัจจัยในประเทศ นักลงทุนยังรอดูการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2561 ของ บมจ.ปตท. (PTT) ที่ในวันนี้ (12 เม.ย.) จะพิจารณาเรื่องการแตกพาร์ และจะมีการรายงานความคืบหน้าการนำ บมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (PTTOR) เข้าตลาดหุ้น รวมถึงวันนี้ยังเป็นวันทำการสุดท้ายก่อนเข้าสู่วันหยุดยาว 13-16 เม.ย. ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ก็อาจจะทำให้มูลค่าการซื้อขายลดลง และนักลงทุนส่วนใหญ่ก็จะเน้นการตั้งรับมากกว่าการไล่ราคาหุ้น กดดันให้ภาพรวมการลงทุนมีลักษณะการซึมตัว และแกว่งตัวในกรอบแคบ
อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นแรงเมื่อวานนี้ ก็น่าจะช่วยประคองตลาดได้บ้าง โดยเฉพาะในหุ้น บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) ซึ่งจะได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น พร้อมให้แนวรับบริเวณ 1,753 และ 1,750 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,770 และ 1,775 จุด