มาร์เกตวอตช์/เอเอฟพี - ราคาน้ำมันและทองคำพุ่งแรงในวันพุธ (11 เม.ย.) ท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง ขณะที่คำขู่ใช้กำลังทหารในซีเรียของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ฉุดวอลล์สตรีทร่วงลงหนัก
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 1.31 ดอลลาร์ ปิดที่ 66.82 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอนงวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 1.02 ดอลลาร์ ปิดที่ 72.06 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
รายงานข่าวซาอุดีอาระเบียยิงสกัดขีปนาวุธลูกหนึ่งเหนือกรุงริยาด กระตุ้นให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้น แม้ว่าข้อมูลรัฐบาลสหรัฐฯ พบคลังน้ำมันดิบสำรองรายสัปดาห์ของประเทศ เพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดหมายไว้ก็ตาม
ขณะเดียวกัน ความรู้สึกของนักลงทุนยังถูกซ้ำเติมจากความเคลื่อนไหวของทรัมป์ ที่เขียนบนทวิตเตอร์ในวันพุธ (11 เม.ย.) ระบุว่าความสัมพันธ์กับรัสเซียในตอนนี้เลวร้ายที่สุดเท่าที่เคยเป็นมา ในนั้นรวมถึงยุคสงครามเย็น และแบะท่าว่าอาจลงมือโจมตีดามัสกัสในทันที
คำขู่ใช้ปฏิบัติการทางทหารในซีเรียของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ฉุดให้ตลาดหุ้นอเมริกาในวันพุธ (11 เม.ย.) ร่วงลงหนัก แม้คลายกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างวอชิงตันกับปักกิ่ง
ดาวโจนส์ ลดลง 218.55 จุด (0.90 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 24,189.45 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 14.68 จุด (0.55 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,642.19 จุด แนสแดค ลดลง 25.28 จุด (0.36 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 7,069.03 จุด
ดัชนีหลักแกว่งตัวอยู่ในแดนลบเกือบตลอดทั้งวัน หลังจาก ทรัมป์ ประกาศก้องผ่านทวิตเตอร์ว่า ขีปนาวุธ “กำลังจะมาแล้ว” ในการตอบโต้เหตุต้องสงสัยว่าเป็นการโจมตีด้วยอาวุธเคมีในซีเรีย
ความเคลื่อนไหวของตลาดในวันพุธ (11 เม.ย.) สวนทางกับเมื่อวันอังคาร (10 เม.ย.) โดยสิ้นเชิง โดยหนึ่งวันก่อนหน้านี้วอลล์สตรีทบวกแรง หลังถ้อยคำประนีประนอมของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน เพิ่มความหวังว่าสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ จะไม่เกิดขึ้น
ด้านราคาทองคำในวันพุธ (11 เม.ย.) ปิดบวกแรง ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ในซีเรียและที่อื่นๆ กระตุ้นให้นักลงทุนหันถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 14.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,360.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์