รอยเตอร์/มาร์เกตวอตช์ - วอลล์สตรีทเทกระจาดในวันจันทร์ (2 เม.ย.) โดยดาวโจนส์ร่วง 450 จุด หวาดผวาสงครามการค้า หลังจีนออกมาตรการตอบโต้สหรัฐฯ ปัจจัยนี้ดันทองคำทะยาน ขณะที่น้ำมันดิ่งเกือบ 2 ดอลลาร์ หลังพบกำลังผลิตรัสเซียเพิ่มขึ้น
ดาวโจนส์ ลดลง 458.92 จุด (1.90 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 23,644.19 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 58.99 จุด (2.23 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,581.88 จุด แนสแดค ลดลง 193.33 จุด (2.74 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 6,870.12 จุด
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เริ่มต้นการซื้อขายในวันแรกของไตรมาส 2 ได้อย่างเลวร้าย มีแรงเทขายทั่วทั้งกระดาน โดยเฉพาะในกลุ่มเทคโนโลยีและสินค้าฟุ่มเฟือย นำโดยอเมซอน, เทสลา และไมโครซอฟท์
รัฐบาลจีนประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าต่างๆ จากสหรัฐฯ จำนวน 128 รายการ ซึ่งรวมถึงเนื้อหมูและผลไม้ โดยมีเป้าหมายที่จะตอบโต้สหรัฐฯ ที่ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากปักกิ่งในช่วงก่อนหน้านี้
จีนได้ตัดสินใจเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้า 120 รายการจากสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงผลไม้และผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับผลไม้ ในอัตรา 15% และเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าอีก 8 รายการ ซึ่งรวมถึงเนื้อหมูและผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหมู ในอัตรา 25% เพื่อตอบโต้สหรัฐที่ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กในอัตรา 25% และภาษีนำเข้าอลูมิเนียมในอัตรา 10% จากประเทศต่างๆ รวมถึงจีน
นอกจากนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังได้ลงนามในคำสั่งเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน วงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยกล่าวหาว่าจีนดำเนินนโยบายการค้าและการลงทุนที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งรวมถึงการขโมยทรัพย์สินทางปัญญาจากอเมริกา
ความเคลื่อนไหวของทรัมป์ มีขึ้นจากความไม่พอใจที่อเมริกาขาดดุลการค้ากับจีนเป็นวงเงินสูงถึง 3.75 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2017 ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนเกือบครึ่งหนึ่งของยอดขาดดุลการค้าโดยรวมของสหรัฐฯ
ขณะเดียวกัน วอลล์สตรีทยังถูกฉุดจากแอมะซอน ที่ปิดลบ 5.2% หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังคงใช้ทวิตเตอร์กล่าวโจมตีผู้ค้าปลีกออนไลน์แห่งนี้อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ความหวาดวิตกเกี่ยวกับสงครามการค้าฉุดให้นักลงทุนหันถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ และช่วยดันราคาทองคำในวันจันทร์ (2 เม.ย.) พุ่งทะยาน โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 19.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,346.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ส่วนราคาน้ำมันในวันจันทร์ (2 เม.ย.) ร่วงแรง หลังพบกำลังผลิตรัสเซียเพิ่มขึ้น และความคาดหมายที่ว่าซาอุดีอาระเบียจะปรับลดราคาน้ำมันดิบที่ส่งมอบแด่เอเชีย
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม ลดลง 1.93 ดอลลาร์ ปิดที่ 63.01 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอนงวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 1.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 67.64 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
แหล่งข่าวเปิดเผยกับรอยเตอร์ในวันจันทร์ (2 เม.ย.) คาดหมายว่าซาอุดีอาระเบียจะลดราคาน้ำมันดิบทุกเกรดที่ส่งมอบแก่ชาติเอเชียในเดือนพฤษภาคม สะท้อนราคาที่ตกต่ำของน้ำมันดิบดูไบ
นอกจากนี้แล้ว ราคาน้ำมันยังถูกซ้ำเติมจากข้อมูลอย่างเป็นทางการที่ระบุว่ากำลังผลิตของรัสเซียเพิ่มขึ้นจาก 10.95 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนกุมภาพันธ์ เป็น 10.97 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนมีนาคม ทั้งที่ยังอยู่ในข้อตกลงลดกำลังผลิตที่เห็นพ้องกับโอเปก