จบดื้อๆ! คกก.ข่าวกรองสภาผู้แทนฯ สรุปผลสอบคดีรัสเซีย ไม่พบหลักฐาน “ทรัมป์” สมคบ “มอสโก”

รอยเตอร์ - คณะกรรมาธิการข่าวกรองแห่งสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ประกาศยุติการสอบสวนกรณีรัสเซียแทรกแซงเลือกตั้งเมื่อวานนี้ (12 มี.ค.) สรุปไม่พบหลักฐานว่าทีมงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สมคบคิดกับมอสโกเพื่อแกว่งคะแนนเสียง

ส.ส.รีพับลิกันซึ่งครองเสียงข้างมากในคณะกรรมาธิการเห็นด้วยว่า รัสเซียพยายามแทรกแซงศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อปี 2016 ด้วยการโฆษณาชวนเชื่อและปล่อยข่าวเท็จผ่านโซเชียลมีเดีย แต่ไม่เห็นด้วยกับข้อสรุปของสำนักงานข่าวกรองกลาง (ซีไอเอ), สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ (เอ็นเอสเอ) และสำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) ที่ระบุว่ามอสโกทำไปเพื่อช่วยเหลือทรัมป์ และทำให้มหาเศรษฐีปากเปราะรายนี้เอาชนะ ฮิลลารี คลินตัน จากพรรคเดโมแครตได้อย่างเหนือความคาดหมาย

“เราผ่านขั้นตอนการสัมภาษณ์แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างร่างรายงานสรุป” ไมค์ โคนาเวย์ ส.ส.รีพับลิกันซึ่งเป็นผู้นำคณะกรรมาธิการข่าวกรองสอบสวนเรื่องนี้มาตั้งแต่ปีที่แล้ว ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์

ด้าน ส.ส.แอดัม ชิฟฟ์ ซึ่งเป็นหัวหน้ากรรมาธิการฝ่ายเดโมแครตออกมาประกาศคัดค้านเต็มที่ และวิจารณ์ถ้อยแถลงของฝ่ายรีพับลิกันว่าเป็นการด่วนสรุปเกินไป

การสอบสวนโดยคณะกรรมาธิการข่าวกรองสภาผู้แทนราษฎรเป็น 1 ใน 3 ทีมสอบสวนที่คองเกรสตั้งขึ้น เพื่อพิสูจน์หาความจริงกรณีรัสเซียป่วนเลือกตั้งปี 2016 รวมถึงความเป็นไปได้ที่ ทรัมป์ และทีมงานอาจสมรู้ร่วมคิดหรือพยายามขัดขวางกระบวนการยุติธรรม

อย่างไรก็ตาม กระบวนการนี้ต้องเผชิญอุปสรรคจากความขัดแย้งระหว่าง 2 พรรค รวมถึงการที่รีพับลิกันและเดโมแครตต่างนำบันทึกเกี่ยวกับการสอบสวนออกมาเผยแพร่

เดวิน นูเนส ประธานคณะกรรมาธิการข่าวกรองสภาผู้แทนฯ ซึ่งเป็น ส.ส.รีพับลิกัน ตัดสินใจปลีกตัวออกจากการสืบคดีนี้ตั้งแต่ปีที่แล้ว หลังมีกระแสข่าวเกี่ยวกับการหารือลับที่ทำเนียบขาว ซึ่ง นูเนส ยืนยันว่าไม่ได้กระทำความผิดใดๆ

ท่าของคณะกรรมาธิการข่าวกรองฝ่ายรีพับลิกันมีขึ้น ในขณะที่อัยการพิเศษ โรเบิร์ต มุลเลอร์ ยังคงสืบสาวคดีรัสเซียลึกลงไปเรื่อยๆ โดยสัปดาห์ที่แล้วได้มีการเชิญตัว แซม นันเบิร์ก อดีตที่ปรึกษาทรัมป์เข้าให้การต่อคณะลูกขุนใหญ่นานถึง 6 ชั่วโมง ส่วน พอล มานาฟอร์ต อดีตผู้จัดการแคมเปญหาเสียงของทรัมป์ ยังยืนกรานปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

“แม้กรรมาธิการส่วนใหญ่จะโอดครวญมาสักระยะหนึ่งแล้วว่าพวกเขาถูกกดดันให้ยุติการสอบสวน แต่มันก็ยังถือเป็นความล้มเหลวที่น่าเศร้าของสภาคองเกรส และสะท้อนถึงการยอมจำนวนต่อฝ่ายบริหาร” ชิฟฟ์ ระบุในถ้อยแถลง ซึ่ง โคนาเวย์ ออกมาปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง

ทรัมป์ ได้ทวีตข้อความเกี่ยวกับถ้อยแถลงของคณะกรรมาธิการข่าวกรองสภาผู้แทนฯ โดยใช้ตัวพิมพ์ใหญ่ทุกตัวอักษรว่า คณะกรรมาธิการไม่พบหลักฐานการสมคบคิดหรือร่วมมือ หลังจากที่ “สอบสวนลงลึกถึงรายละเอียด” มานานถึง 14 เดือน

กรรมาธิการฝ่ายรีพับลิกันออกมาเปรยตั้งแต่หลายสัปดาห์ก่อนว่า ขั้นตอนการสัมภาษณ์นั้นจวนจะเสร็จแล้ว และจำเป็นต้องออกรายงานสรุปเพื่อเตรียมตัวรับศึกเลือกตั้งกลางเทอมที่จะมีขึ้นในเดือน พ.ย.

ส.ส.เดโมแครต กล่าวหารีพับลิกันว่าจงใจปิดการสอบสวนเพื่อปกป้อง ทรัมป์ และพรรคพวก ซึ่งบางคนได้ยอมรับสารภาพข้อหาให้การเท็จต่อพนักงานสอบสวน และสมคบคิดคิดต่อต้านสหรัฐอเมริกาแล้ว

ชิฟฟ์ ระบุว่า มีหลักฐาน “ชัดเจนและมากมาย” ว่าข้อสรุปของประชาคมข่าวกรองนั้นถูกต้อง ขณะที่ โคนาเวย์ ตอกกลับเดโมแครตว่าจงใจทำให้การสอบสวนยืดเยื้อเพื่อกัดเซาะคะแนนนิยมของรีพับลิกันก่อนจะถึงศึกเลือกตั้งกลางเทอม

กรรมาธิการข่าวกรองรีพับลิกันระบุว่า รายงานสรุปผลการสอบสวนฉบับร่างถูกจัดทำเรียบร้อยแล้ว และคงจะเป็นฉบับ “สุดท้าย” ด้วย ขณะที่กรรมาธิการฝ่ายเดโมแครตคาดว่าจะออกรายงานอีกฉบับแยกต่างหาก