xs
xsm
sm
md
lg

“โฮป ฮิกส์” อดีตนางแบบคนสนิท “ทรัมป์” ลาออกจากตำแหน่ง ผอ.สื่อสารทำเนียบขาว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

โฮป ฮิกส์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารของทำเนียบขาว (แฟ้มภาพ)
รอยเตอร์ - โฮป ฮิกส์ อดีตนางแบบวัย 29 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ช่วยที่ทำงานให้กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มานาน และได้รับความไว้วางใจจาก ทรัมป์ มากเป็นพิเศษ ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารของทำเนียบขาวแล้ว

ข่าวการลาออกของ ฮิกส์ ถูกประกาศเพียง 1 วันหลังจากที่เธอถูกเชิญตัวเข้าให้การแบบปิดลับเป็นเวลาถึง 9 ชั่วโมงต่อคณะกรรมาธิการข่าวกรองแห่งสภาผู้แทนราษฎร ที่กำลังสอบสวนคดีรัสเซียแทรกแซงศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี 2016

ซาราห์ แซนเดอร์ส โฆษกทำเนียบขาว ยืนยันว่า การลาออกของ ฮิกส์ ไม่เกี่ยวกับเรื่องที่เธอถูกเชิญเข้าให้ปากคำต่อคณะกรรมาธิการข่าวกรอง

บรรดา ส.ส.ระบุว่า ฮิกส์ ซึ่งเคยเป็นโฆษกหญิงให้กับทีมหาเสียงของ ทรัมป์ ปฏิเสธที่จะตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่องภายในรัฐบาล แต่ยอมตอบทุกคำถามเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง รวมถึงระยะเวลาเปลี่ยนผ่านตั้งแต่เดือน พ.ย.ปี 2016 จนถึงวันที่ 20 ม.ค. ปี 2017 ที่ ทรัมป์ สาบานตนรับตำแหน่ง

ทำเนียบขาวไม่ได้ระบุว่า ฮิกส์ จะยุติการปฏิบัติหน้าที่วันไหน แต่คาดว่าคงจะภายใน 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า

ฮิกส์ เป็นอีกหนึ่งตัวละครที่เข้าไปพัวพันกับเรื่องชู้สาวของ ร็อบ พอร์เตอร์ อดีตเลขานุการคณะเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวซึ่งเธอเคยออกเดตด้วย เธอพยายามออกมาปกป้องฝ่ายชายซึ่งถูกกล่าวหาว่าทำร้ายร่างกายภรรยาเก่า 2 คน แต่สุดท้าย พอร์เตอร์ ก็ถูกบีบให้ต้องลาออกจากรัฐบาลไป

ฮิกส์ เคยเป็นผู้ช่วยให้กับ อิวองกา ทรัมป์ มาก่อน และไม่มีประสบการณ์ทำงานการเมือง แต่ก็เป็นบุคคลแรกๆ ที่ ทรัมป์ จ้างให้มาทำงานด้วยหลังจากที่เขาประกาศลงชิงเก้าอี้ผู้นำสหรัฐฯ

ผู้ช่วยหลายคนเผยว่า ฮิกส์ ได้เข้าพบประธานาธิบดีเพื่อแจ้งความปรารถนาที่จะยุติงานการเมือง และออกไปแสวงหาโอกาสอื่นๆ ภายนอกทำเนียบขาว

ประเด็นที่ ฮิกส์ ไม่ยอมตอบข้อซักถามของคณะกรรมาธิการข่าวกรองเมื่อวันอังคาร (27) ยังรวมถึงเรื่องที่เธอมีส่วนช่วยร่างคำแถลงเมื่อเดือน ก.ค. ปี 2017 ซึ่งให้ข้อมูลบิดเบือนเกี่ยวกับการพบปะที่อาคารทรัมป์ทาวเวอร์ในเดือน ก.ค. ปี 2016 ระหว่าง โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ และบรรดาผู้ช่วย กับทนายความหญิงชาวรัสเซียที่ชื่อ นาตาเลีย วาเซลนิตสกายา

บุตรชายคนหัวปีของ ทรัมป์ อ้างในช่วงแรกๆ ว่าบทสนทนาส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับโครงการอุปการะเด็กชาวรัสเซีย แต่ต่อมา วาเซลนิตสกายา ก็เสนอว่าจะให้ข้อมูลเด็ดที่สามารถทำลายชื่อเสียงของ ฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครตซึ่งเป็นคู่แข่งกับ ทรัมป์

ประชาคมข่าวกรองสหรัฐฯ สรุปยืนยันว่า รัสเซียใช้กลยุทธ์เจาะระบบคอมพิวเตอร์และปล่อยข้อมูลอันเป็นเท็จเพื่อแทรกแซงศึกเลือกตั้งในสหรัฐฯ ก่อนจะพัฒนาไปสู่การช่วยเหลือให้ ทรัมป์ เอาชนะ คลินตัน ซึ่งมอสโกเองยังปฏิเสธเสียงแข็ง และ ทรัมป์ ก็ยืนยันว่าทีมหาเสียงของตนไม่เคยสมคบคิดกับเจ้าหน้าที่รัสเซีย

ฮิกส์ เข้ามารับหน้าที่ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารทำเนียบขาวต่อจาก แอนโธนี สการามุชชี ซึ่งถูกไล่ออกหลังทำงานได้เพียง 11 วัน เธอได้รับการยกย่องว่าเป็นคนหลังฉากที่ช่วยให้ปฏิบัติการสื่อสารของทำเนียบขาวราบรื่นและมีเสถียรภาพมากขึ้น

“โฮป เป็นคนที่โดดเด่นและทำงานยอดเยี่ยมตลอด 3 ปีที่ผ่านมา เธอเป็นคนฉลาดและช่างคิด เป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง” ทรัมป์ ระบุในถ้อยแถลงที่เผยแพร่ผ่านทำเนียบขาว “ผมคงเสียดายที่ไม่มีเธออยู่ข้างๆ แต่ตอนที่เธอเข้ามาหาและบอกว่าอยากจะออกไปแสวงหาโอกาสอื่นๆ ดูบ้าง ผมก็เข้าใจดี และผมมั่นใจว่าเราจะได้ทำงานด้วยกันอีกแน่นอนในอนาคต”

ด้าน ฮิกส์ เองก็บอกว่า “ดิฉันไม่รู้จะสรรหาคำพูดใดมาแสดงความรู้สึกขอบคุณต่อประธานาธิบดีทรัมป์ได้อย่างเพียงพอ ดิฉันขอให้ท่านประธานาธิบดีและรัฐบาลประสบแต่สิ่งที่ดีที่สุดในการบริหารบ้านเมืองของเราต่อไป”
ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ สนทนากับ โฮป ฮิกส์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารของทำเนียบขาว (แฟ้มภาพ)


กำลังโหลดความคิดเห็น