เอเจนซีส์ - สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะแห่งญี่ปุ่นจะทรงสละราชสมบัติในวันที่ 30 เม.ย. ปี 2019 ซึ่งนับเป็นการสละบัลลังก์ครั้งแรกของพระจักรพรรดิญี่ปุ่นในรอบกว่า 200 ปี นายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ แถลงวันนี้ (1 ธ.ค.)
สถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเครายงานว่า คณะทำงานพิเศษซึ่งมีนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ เป็นประธาน ได้สรุปเห็นพ้องเรื่องวันสละราชสมบัติว่าจะตรงกับวันที่ 30 เม.ย. ปี 2019
“เราจะบังคับใช้ (กฎหมายพิเศษว่าด้วยการสละราชย์ของพระจักรพรรดิ) ในวันที่ 30 เม.ย. ปี 2019” อาเบะ แถลงต่อสื่อมวลชนหลังจากที่ได้เข้าเฝ้าฯ พระจักรพรรดิ
นายกฯ ญี่ปุ่นยอมรับว่ารู้สึก “ตื้นตัน” ที่ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น หลังจากที่ได้เปิดประชุมสภาพระราชวังอิมพิเรียลวาระพิเศษเพื่อกำหนดวันอันสำคัญ
“รัฐบาลจะพยายามทำอย่างดีที่สุด เพื่อให้ประชาชนชาวญี่ปุ่นได้ร่วมยินดีในการสละราชย์ของพระจักรพรรดิและการเสด็จขึ้นครองราชย์ของมกุฎราชกุมาร” อาเบะ กล่าว
เจ้าฟ้าชายนารุฮิโตะ พระชนมายุ 57 พรรษา คาดว่าจะเสด็จฯ ขึ้นครองราชย์เป็นพระจักรพรรดิแห่งบัลลังก์เบญจมาศพระองค์ใหม่ในวันถัดไป
ชาวญี่ปุ่นต่างตกตะลึงเมื่อสมเด็จพระจักรพรรดิซึ่งครองราชย์มานานเกือบ 30 ปี มีพระราชดำรัสผ่านสื่อโทรทัศน์เมื่อเดือน ส.ค. ปี 2016 ว่า พระชนมายุที่มากขึ้นและปัญหาสุขภาพอาจเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติพระราชกรณียกิจต่างๆ ให้ครบถ้วนสมบูรณ์ ซึ่งทำให้ทุกฝ่ายตีความได้ว่าทรงทรงปรารถนาที่จะสละราชสมบัติให้แก่พระราชโอรสองค์ใหญ่
เชื่อกันว่าราชวงศ์อิมพิเรียลของญี่ปุ่นมีอายุเก่าแก่ที่สุดในโลก โดยสืบเชื้อสายต่อเนื่องกันมานานกว่า 2,600 ปี และการสละราชสมบัตินั้นใช่ว่าจะไม่เคยมีมาก่อน ทว่าครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อกว่า 200 ปีมาแล้ว
สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะทรงเป็นจักรพรรดิพระองค์ที่ 125 ตามตำนานเล่าว่าปฐมจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่นก็คือ จักรพรรดิจิมมุ ที่สืบเชื้อสายมาจากเทพีแห่งดวงอาทิตย์ “อะมะเตระซุ”
จักรพรรดิทรงมีบทบาทสำคัญในทางศาสนาชินโต โดยทรงเป็นผู้ประกอบพิธีกรรมและสวดภาวนาเพื่อให้บ้านเมืองมีความเจริญรุ่งเรืองผาสุก
แม้สถานะเทวราชาของจักรพรรดิสูญสิ้นไปพร้อมกับการปิดฉากสงครามโลกครั้งที่ 2 ทว่าสถาบันจักรพรรดิยังทรงเป็นที่เคารพรักของชาวแดนอาทิตย์อุทัยอย่างลึกซึ้งเสมอมา