ซีเอ็นเอ็น - จอร์จ เฮอร์เบิร์ต บุช อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ กำลังเผชิญคำกล่าวหาลวนลามทางเพศผู้หญิงหลายราย ในนั้นรวมถึงกรณีแอบจับก้นวัยรุ่นหญิงคนหนึ่งในปี 2003
ในการให้สัมภาษณ์กับนิตยสารไทม์ที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์ (13 พ.ย.) โรสลิน คอร์ริแกน เผยว่าเธออายุ 16 ปี ตอนที่บุชคนพ่อซึ่งตอนนั้นอายุ 79 ปี แตะต้องเธออย่างไม่เหมาะสมที่งานหนึ่ง ณ สำนักงานของซีไอเอ ในเมืองวูดแลนด์ รัฐเทกซัส เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2003
คอร์ริแกนเล่าว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตอนที่พ่อของเธอและเพื่อนๆ เจ้าหน้าที่ข่าวกรองของพ่อ พร้อมครอบครัวเดินทางไปพบปะ บุช แต่ระหว่างที่เธอและแม่กำลังโพสท่าถ่ายรูปกับอดีตประธานาธิบดีรายนี้ บุชคนพ่อกลับแอบจับก้นของเธอ
“ตอนที่กำลังถ่ายภาพ นับ 1-2-3 เขาลดมือจากเอวของฉันลงไปที่ก้นและบีบ ซึ่งอธิบายได้ว่าทำไมในรูปฉันถึงอ้าปากกว้าง” คอร์ริแกนบอกกับนิตยสารไทม์ “ฉันรู้สึกตอนนั้นว่า โอ้พระเจ้า มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย?”
“ปฏิกิริยาแรกของฉันคือหวาดกลัวมาก ฉันรู้สึกสับสนอย่างยิ่ง” คอร์ริแกนเผย “สิ่งแรกที่ฉันทำคือมองไปที่แม่ ตอนที่เขายังยืนอยู่ที่นั่น ฉันไม่กล้าพูดอะไร วัยรุ่นคนหนึ่งจะกล้าพูดอะไรกับอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ? อย่างเช่นว่าเฮ้ คุณไม่ควรมาแตะตัวฉันนะ นะหรือ?”
คำกล่าวอ้างของคอร์ริแกน คล้ายกับหญิงสาวคนอื่นๆ อีกอย่างน้อย 3 คนที่บอกว่าพวกเธอถูกแตะต้องอย่างไม่เหมาะสมระหว่างร่วมถ่ายภาพกับอดีตประธานาธิบดีรายนี้
อย่างไรก็ตาม จิม แม็กกรัธ โฆษกของบุชผู้พ่อ ออกถ้อยแถลงขอโทษในนามของอดีตประธานาธิบดีรายนี้ต่อคำกล่าวหาล่าสุด โดยอ้างว่ามันเป็นเพราะร่างกายที่ไม่แข็งแรงตามวัยของบุชผู้พ่อ “จอร์จ บุช ไม่เคยเฉลียวใจเลยว่ามันก่อความขุ่นเคืองแก่ผู้อื่น และเขาขอโทษอีกครั้งที่อาจก่อความขุ่นเคืองใดๆ ระหว่างการถ่ายรูป”
ในถ้อยแถลงที่เผยแพร่เมื่อเดือนที่แล้ว เพื่อตอบโต้ข้อกล่าวหาก่อนหน้านี้ แม็กกรัธ ชี้แจงว่าการแตะเนื้อต้องตัวนั้น เกิดจากสังขารและข้อจำกัดทางร่างกายของอดีตประธานาธิบดี"
“ด้วยวัย 93 ปี ประธานาธิบดีบุชต้องนั่งรถเข็นมาราวๆ 5 ปีแล้ว แขนของเขาไม่มีกำลังหล่นมาอยู่ตรงสะโพกของคนที่ถ่ายภาพด้วย” เขาเขียน “ในพยายามสร้างความผ่อนคลายแก่คนอื่นๆ ท่านประธานาธิบดีมักยิงมุกตลก และในบางโอกาสก็ตีบั้นท้ายผู้หญิงเบาๆ ด้วยเจตนาแสดงถึงความมีเมตตากรุณา บางคนมองว่าเป็นเรื่องบริสุทธิ์ใจ แต่บางคนอาจมองว่ามันไม่เหมาะสม ถึงทุกคนที่เขาล่วงละเมิด ประธานาธิบดีบุชขอโทษจากใจจริง”